นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อม นพ.เหวง โตจิราการ และ นางธิดา ถาวรเศรษฐ แกนนำ นปช. ร่วมแถลงการติดตามทวงถามกรณีการเสียชีวิต 99 ศพ ในช่วงการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงเมื่อปี 2553
แนวหน้า- นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า สืบเนื่องจากกรณีที่ศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยที่ 1 และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี จำเลยที่ 2 เป็นจำเลยฐานร่วมกันก่อหรือใช้ให้ผู้อื่นกระทำหรือฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ให้อยู่ในเขตอำนาจของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือ (อ่านรายละเอียดข่าว: ฎีกายกฟ้อง‘มาร์ค-สุเทพ’ คดีสั่งสลายชุมนุมม็อบนปช.ปี53) ซึ่งแกนนำ นปช. ได้หารือกับฝ่ายกฎหมายแล้ว เห็นตรงกันว่า คดีนี้ศาลฎีกามิได้ตัดสินให้ นายอภิสิทธิ์ และ นายสุเทพ พ้นผิด จากการสลายการชุมนุมจนมีผู้เสียชีวิตรวม 99 ศพ และบาดเจ็บอีกกว่า 2,000 คน
“เป็นแค่การวินิจฉัยว่ากรณีอยู่ในอำนาจศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สามารถรับฟ้องไว้พิจารณาได้ ทั้งความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และเป็นผู้ก่อการหรือใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดข้อหาฆ่าคน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80,83,84 และ 288 ทั้งนี้คำพิพากษาศาลฎีกาย่อมผูกพันคู่ความ คือ โจทก์ ได้แก่พนักงานอัยการ และจำเลยทั้งสอง รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามคำวินิจฉัยของศาลฎีกา คือ สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) หน่วยงานทั้ง 2 จึงมีหน้าที่ต้องปฏิบัติต่อไป” เลขาธิการ นปช. กล่าว
สำนักข่าววิหคนิวส์