ข่าวประจำวัน » #บ.ทัวร์ศูนย์เหรียญปัดวิ่งล้มคดี !! ยันเสียหานับหมื่นล้าน

#บ.ทัวร์ศูนย์เหรียญปัดวิ่งล้มคดี !! ยันเสียหานับหมื่นล้าน

13 September 2017
404   0

ทายาทบริษัทโอเอฯ แถลงไม่เกี่ยวข้องคดีทัวร์ศูนย์เหรียญ ปัดวิ่งเต้นล้มคดี โอดถูกยึดรถ-ปิดกิจการเสียหายกว่าหมื่นล้าน

แนวหน้า – น.ส.สายทิพย์ และนายวสุรัตน์ โรจน์รุ่งรังสี สมาชิกครอบครัวโรจน์รุ่งรังสี และทายาทธุรกิจในเครือโอเอ ทรานสปอร์ต ซึ่งตกเป็นจำเลยในคดีทัวร์ศูนย์เหรียญ แถลงเมื่อวันที่ 12 ก.ย.60 หลังศาลมีคำสั่งยกฟ้องคดี ว่า บริษัทฯไม่มีส่วนกระทำความผิดเกี่ยวกับทัวร์ศูนย์เหรียญ เพราะบริษัทโอเอไม่ใช่บริษัททัวร์ แต่เป็นผู้ให้บริการเช่ารถทัวร์กว่า 2,000 คัน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างชาติจากหลายชาติ ไม่ใช่ชาวจีนเพียงอย่างเดียว และทำธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2536 ส่วนธุรกิจที่เหลือเป็นเพียงบริษัทที่ให้บริการรองรับการท่องเที่ยว ทั้งร้านขายเครื่องประดับอัญมณี เครื่องหนัง ขนมไทย สมุนไพร และสินค้าเกษตรแปรรูป

“แต่บริษัทกลับถูกตั้งข้อกล่าวหา เนื่องจากบริษัททัวร์ที่สวมบัตรประชาชาชนปลอม 2 บริษัท ต่างเป็นลูกค้าที่มาเช่ารถทัวร์ของบริษัทโอเอฯ ทำให้ทางบริษัทถูกแจ้งข้อหาร่วมกันกระทำความผิดมูลฐานอั้งยี่และฟอกเงินด้วย ทั้งที่ความจริงแล้วบริษัทดังกล่าวเป็นเพียง 2 ใน 300 กว่าบริษัทที่มาเช่ารถทัวร์ ซึ่งยังไม่ถึงร้อยละ 1 ของจำนวนลูกค้าทั้งหมด” น.ส.สายทิพย์ กล่าว

น.ส.สายทิพย์ ยืนยันว่า ไม่เคยบังคับให้บริษัททัวร์ต้องส่งนักท่องเที่ยวมาซื้อสินค้าจากร้านในเครือเท่านั้น แต่ทางบริษัททัวร์เห็นว่าถ้าไปที่ร้านจะได้ส่วนลด ไกด์ได้ค่าคอมมิชชั่น ทางบริษัททัวร์จึงจัดโปรแกรมมาที่ร้านในเครือ ซึ่งลูกทัวร์จะซื้อสินค้าหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของลูกทัวร์เอง ไม่ได้มีการบังคับ ส่วนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นธุรกิจของคนจีน ตนยอมรับว่าบรรพบุรุษเป็นคนจีนที่อพยพเข้ามาอยู่ในไทยจริง และได้แต่งงานกับคนไทย รุ่นพ่อแม่ก็เป็นคนไทย มีสูติบัตรชัดเจน ทำให้ธุรกิจดำเนินกิจการโดยคนไทย 100% มีการเสียภาษีต่างๆตามปกติ ไม่ใช่บริษัทของคนจีนตามที่ถูกกล่าวหา อีกทั้งบริษัทก็กู้เงินจากธนาคารไทยมาลงทุน ไม่ใช่ธนาคารจีนแต่อย่างใด
“ขณะนี้บริษัทโอเอฯไม่สามารถดำเนินกิจการได้ เนื่องจากถูกอายัดรถทัวร์กว่า 2,000 คัน และยังผ่อนชำระไม่หมด ทำให้ตอนนี้ยังติดเงินกู้จากธนาคารอยู่จำนวนมาก และยังต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยธนาคาร และเงินเดือนพนักงานกว่าพันคน ความเสียหายจากการปิดกิจการชั่วคราวมานานกว่า 1 ปี รวมกว่าหมื่นล้านบาท ซึ่งยังไม่ได้หารือกับทนายความเกี่ยวกับเรื่องของการฟ้องกลับ หรือเรียกค่าเสียหาย ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมก่อน ยืนยันว่าไม่มีการวิ่งเต้นคดีตามที่มีกระแสข่าว ขอความเห็นใจ และขอให้สังคมเข้าใจเรื่องการดำเนินธุรกิจ เพื่อที่จะมีโอกาสกลับมาทำธุรกิจและหาเงินใช้หนี้ธนาคารที่กู้ยืมมาลงทุน” น.ส.สายทิพย์ กล่าว 

สำนักข่าววิหคนิวส์