ทีมงานวิหคนิวส์ต้องขอบอกเลยว่า นายวิเชียร ยอมรับว่า เป็นห่วงลูก แต่ก็ต้องปล่อยให้อยู่บ้านคนเดียว เพราะทั้งตน และภรรยาต้องออกไปทำงานเพื่อหารายได้ในวันนี้ จึงนำลูกมารักษาตัว ที่สถาบันจิตเวช โรงพยาบาลเจ้าพระยา และจะฝากให้แพทย์ทำการรักษาจนอาการดีขึ้น จึงจะนำตัวกลับบ้าน คาดว่าต้องใช้เวลาร่วมเดือน
จากการสอบถาม ด่านทางด่วนบางปะกง 1 ระบุว่า ไม่สามารถให้ข้อมูลได้ว่าหญิงสาวรายดังกล่าวขับรถผ่านด่านเก็บเงินได้อย่างไร แต่ที่ด่านมีทั้งตู้เก็บเงินจากพนักงาน และช่องทางอัตโนมัติ
เปิดเผยว่า ตน และลูกสาวอาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านที่จังหวัดชลบุรี ลูกสาวป่วยเป็นโรคทางจิต ตั้งแต่อายุ 18 ปี ต้องกินยาเพื่อระงับประสาทมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วงเช้าของวันที่ 3 สิงหาคม เวลาประมาณ 08.00 น. ตน และภรรยาออกไปทำงาน ปล่อยลูกสาวอยู่บ้านคนเดียว จนเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจโทรมาแจ้งว่าลูกสาวขับรถขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี ตนจึงรีบเดินทางไปรับตัว ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ลูกสาวตนขับรถจักรยานยนต์ขึ้นทางด่วน และไม่ทราบว่าลูกสาวขับรถจักรยานยนต์ขึ้นไปได้อย่างไร เนื่องจากผิดกฎหมาย
ส่วนที่ขับรถออกจากบ้าน เพราะลูกสาวเป็นคนชอบท่องเที่ยว ก่อนหน้านี้เคยขับรถมาถึงย่านพระโขนง แม้บางครั้งตนจะไม่ทิ้งกุญแจรถไว้ แต่ลูกสาวก็จะเดินออกจากบ้าน โดยช่วงที่ผ่านมา ลูกสาวไม่ยอมกินยา โดยแอบเอายาไปทิ้ง ทำให้อาการกำเริบ ชอบพูดคนเดียว มีอาการประสาทหลอนบ่อยครั้ง
จากการสอบถามหญิงสาวรายดังกล่าว ที่ไม่สามารถให้การได้มีลักษณะคล้ายมีอาการทางจิต เจ้าหน้าที่จึงตรวจค้นรถ พบประวัติการรักษาทางจิตเวช จึงรีบติดต่อให้ญาติมารับตัว ก่อนทำการส่งตัวไปรักษาต่อ ที่สถาบันจิตเวช โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา โดยไม่ได้เปรียบเทียบปรับแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นผู้ป่วย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุว่า รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ไม่สามารถขับรถขึ้นทางด่วนได้ หากผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท