#อภิสิทธิ์หนุน!!กม.ล่านักการเมืองโกงไม่ขัดหลักยุติธรรม
หัวหน้าปชป. หนุนกม.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ดัดหลังนักการเมืองหนีคดี ระบุไม่ขัดหลักยุติธรรม เหตุจำเลยรู้ตัว-อนุญาตตั้งทนาย-ให้สิทธิ์อุทธรณ์ ยกเคส “คดีที่ดินรัชดา” ได้ตัว “ทักษิณ” เมื่อไหร่ต้องรับโทษ
วันนี้ (17ก.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการต้องถาม ถึงกรณีร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่า กฎหมายดังกล่าวพยายามแก้ไขปัญหาคนที่มีอิทธิพลหนีคดี และเนื้อหามีความระมัดระวังไม่ให้กระทบกับหลักความยุติธรรม ทั้งนี้ ควรจะสนับสนุนมาตรการใดก็ตามที่ทำให้การบังคับใช้กฎหมายมีความศักดิ์สิทธิ์มากขึ้น
“การอนุญาตให้พิจารณาคดีลับหลัง จากการตรวจสอบกฎหมายของต่างประเทศ โดยเฉพาะสหภาพยุโรปที่มีปัญหาดังกล่าว เพราะมีหลักไม่พิจารณาคดีลับหลัง แต่บางประเทศก็อนุญาตไว้เหมือนกับบ้านเรา พบว่าการจะพิจารณาคดีลับหลังได้นั้น จะมีเงื่อนไขว่าจำเลยได้รับการแจ้ง หรือรู้ว่าจะมีการดำเนินคดี อีกทั้งจำเลยมีสิทธิ์ตั้งทนายต่อสู้ ดังนั้น จึงเข้าใจว่าประเด็นที่ไม่เห็นด้วยให้พิจารณาคดีลับหลังนั้นอาจเป็นกรณีที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว ไม่มีสิทธิ์ต่อสู้ และอยู่ดีๆก็นำเขาขึ้นศาลเพื่อพิพากษา แบบนั้นไม่ยุติธรรมแน่นอน แต่สำหรับกฎหมายที่บ้านเราอนุญาตให้พิจารณาคดีลับหลังนั้น เป็นการแจ้งให้จำเลยทราบแล้ว แต่จงใจไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะฉะนั้นถือว่าไม่น่าขัดกับหลักความยุติธรรม โดยเฉพาะจำเลยสามารถตั้งทนายต่อสู้ได้ อีกทั้งยังกำหนดว่าหากจำเลยตัดสินใจกลับมาสู้และมีพยานหลักฐานใหม่ที่จะส่งผลต่อคำพิพากษาสามารถรื้อฟื้นคดีได้ ซึ่งเป็นสิทธิ์นอกจากอุทธรณ์คดีซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นใหม่ตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ถือเป็นการให้ความยุติธรรมกับจำเลย” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า สำหรับข้อโต้แย้งในร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฯ บทเฉพาะกาล มาตรา 67 ที่ให้โทษย้อนหลังนั้น ตามหลักทั่วไปการมีโทษย้อนหลังที่ไม่ควรเกิดขึ้นมี 2 กรณี คือ 1.ขณะที่กระทำนั้นไม่ผิด แต่ต่อมากฎหมายมาบอกว่าผิด การย้อนหลังดังกล่าวถือว่าไม่ได้ เพราะขัดหลักยุติธรรม และ2.ขณะทำความผิดมีโทษอีกแบบหนึ่ง ต่อมาออกกฎหมายให้โทษรุนแรงขึ้น แล้วย้อนหลังกับผู้กระทำความผิดก่อนหน้านั้น ตามรัฐธรรมนูญและหลักสากลบอกว่าทำไม่ได้ แต่สำหรับร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฯไม่ได้เพิ่มความผิดทางอาญา หรือนำโทษหนักกว่าไปย้อนหลังกับการกระทำก่อนหน้านี้ แต่เป็นเรื่องวิธีพิจารณาความ ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน
เมื่อถามว่าร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฯ จะมีผลต่อคดีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกตัดสินไปแล้ว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในบทเฉพาะกาล เขียนแค่ว่าส่วนที่ดำเนินการไปแล้วไม่ได้รับผลกระทบ โดยกรณีของนายทักษิณจะมี 2 ลักษณะ คือ 1.ศาลตัดสินแล้ว และ2.คดีที่ยังไม่ได้เริ่มต้น หรือหมายความว่าสิ่งที่ยังไม่ได้เริ่มต้นหรือศาลตัดสินไปแล้วไม่มีผลกระทบ และถ้าถามว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ก็ตอบว่าดำเนินการตามร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฯเพราะฉะนั้นคดีที่ยังไม่ได้เริ่มต้นหรือศาลจำหน่ายชั่วคราวเพราะจำเลยไม่อยู่ก็ดำเนินการได้ อย่างไรก็ตาม ในร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฯ ยังระบุด้วยว่าคดีที่ตัดสินแล้วไม่นำประมวลกฎหมายอาญา มาตรา98 มาใช้ แปลว่าคดีรัชดาที่นายทักษิณยังไม่ได้รับโทษนั้น ถ้าได้ตัวมาเมื่อไหร่จะต้องรับโทษไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีก็ตาม
ทีมข่าว สำนักข่าว vihok news รายงาน