วันที่ 12 ธันวาคม 2568 มีรายงานว่า แฟนเพจ NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ โพสต์ข้อความว่า วันที่ 14 – เช้า 15 ธันวาคม 2568 “ฝนดาวตกเจมินิดส์” จะมีอัตราการตกสูงสุดถึงประมาณ 150 ดวง/ชั่วโมง มีศูนย์กลางการกระจายตัวของฝนดาวตกอยู่ในกลุ่มดาวคนคู่
รอชมปรากฏการณ์ได้ตั้งแต่ช่วงที่กลุ่มดาวคนคู่ขึ้นจากขอบฟ้าทางทิศตะวันออก ตั้งแต่เวลาประมาณ 20.00 น. เป็นต้นไป จนถึงเวลา 02.30 น. หลังจากนั้นมีแสงจันทร์รบกวนทั้งนี้ ในคืนวันที่ 13 – รุ่งเช้า 14 ธันวาคม ก็สามารถลุ้นชมปรากฏการณ์ฝนดาวตกเจมินิดส์ได้เช่นกัน
โดยจะเริ่มมีแสงจันทร์รบกวนตั้งแต่เวลาประมาณ 01.40 น. เป็นต้นไป และในคืนวันที่ 14 – รุ่งเช้า 15 ธันวาคม จะเป็นคืนที่คาดการณ์ว่ามีอัตราการตกสูงที่สุดผู้สนใจชมฝนดาวตก สามารถเลือกชมได้ตามวันเวลาที่สะดวก โดยเลือกพื้นที่โล่ง และมืดสนิท ห่างไกลจากแสงของตัวเมือง เช่น ลานกว้างบนภูเขา เนินสูง พื้นที่ราบ อ่างเก็บน้ำ ฯลฯ หากฟ้าใสไร้เมฆ สามารถดูได้ทุกภูมิภาคทั่วไทย แนะนำให้นอนชม เพื่อให้กวาดสายตามองดาวตกได้รอบทิศทาง
ฝนดาวตกเจมินิดส์ หรือ ฝนดาวตกกลุ่มดาวคนคู่ เป็นฝนดาวตกที่เกิดในช่วงระหว่างวันที่ 4 – 20 ธันวาคม ของทุกปี เกิดจากการที่โลกเคลื่อนผ่านเข้าไปในสายธารเศษหินและฝุ่นขนาดน้อยใหญ่ของดาวเคราะห์น้อย 3200 เฟธอน (3200 Phaethon) ที่หลงเหลือทิ้งไว้เมื่อครั้งเคลื่อนผ่านเข้ามาในระบบสุริยะชั้นในเมื่อโลกโคจรผ่านสายธารดังกล่าว
แรงโน้มถ่วงของโลกจะดึงดูดเศษหินและฝุ่นเหล่านั้นเข้ามาในชั้นบรรยากาศ ทำให้เกิดการเสียดสีและเผาไหม้ ปรากฏให้ผู้สังเกตการณ์บนโลกเห็นเป็นลำแสงคล้ายลูกไฟสว่างวาบเคลื่อนผ่านท้องฟ้า หรือในบางครั้งเกิดเป็นลูกไฟขนาดใหญ่ (Fireball) ซึ่ง “ฝนดาวตก” จะแตกต่างจาก “ดาวตก” ทั่วไป คือเป็นดาวตกที่มีทิศทางเหมือนมาจากจุด ๆ หนึ่งบนท้องฟ้า เรียกว่า จุดศูนย์กลางการกระจายตัว (Radiant) เมื่อจุดศูนย์กลางการกระจายตัวอยู่ใกล้บริเวณกลุ่มดาวใด ก็จะเรียกชื่อฝนดาวตกตามกลุ่มดาวนั้น ๆ.


CR: ไทยรัฐ
