น้ำแข็งบอกเลยว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมจริงๆ แถมยังมีให้เราเห็นกันอยู่ตลอด สำหรับปัญหา “สามี-ภรรยา” ที่แรกรักต่างก็รับทุกอย่างในตัวกันได้ แต่พอนานๆไปเมื่อบางอย่างเริ่มเปลี่ยน นิสัยคนก็เปลี่ยนตามไปด้วย อย่างเช่นเรื่องราวของสามีภรรยาคู่นี้ ที่สามีไม่แตะต้องตัวภรรยาอีกเลยหลังเธอ “คลอดลูก” ทำให้ภรรยานั้นถึงขั้นเครียด จนได้ฟังสาเหตุจากปากของสามีชัดๆ ก็ถึงกับยืนอึ้งหน้าชาไปเลยทีเดียว จนต้องหันมาทำอะไรซักอย่าง ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดมีอยู่ว่า
ขอแนะนำตัวนิดนึงแล้วกันนะคะ ฉันเป็นคนตัวเล็ก สูง 156 ซม. น้ำหนัก 40 กก. แต่ถึงแม้ฉันจะตัวเล็กกว่าคนปกติ แต่ฉันก็มีคุณสามีที่รักฉันยิ่งกว่าสิ่งใดๆแต่งงานได้ไม่นาน ฉันก็ตั้งท้อง แต่ด้วยความที่ฉันเป็นคนตัวเล็ก และท้องก็เริ่มโตขึ้นทุกวัน เลยทำให้เหล่าบรรดาญาติๆต่างเป็นห่วง และกำชับให้สามีคอยดูแลเอาใจใส่เรื่องอาหารการกิน เพื่อให้ลูกน้อยที่เกิดมามีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง
ดังนั้นทุกวันเขาก็จะทำอาหารสำหรับคนท้องให้ฉันกินทุกวัน และฉันก็กินมากกว่าปกติ เพื่อให้ลูกในท้องแข็งแรง เป็นแบบนี้ทุกวันไปเรื่อยๆ จนฉันไม่ทันได้สังเกตุว่าตัวเองมีขนาดตัวใหญ่ขึ้น มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น แต่คิดว่าอาจจะเป็นเพราะท้องโตขึ้นมากกว่า
หลังจากคลอดลูก ฉันต้องอยู่เดือนตามธรรมเนียมของคนโบราณ ดังนั้นแม่สามีจึงมาช่วยดูแลฉันและลูก ทำอาหารให้กิน อาหารแต่ละอย่างส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกขาหมูตุ๋น บอกว่าดีช่วยเพิ่มน้ำนม ในการให้นมลูก เมื่อสามีเห็นว่าแม่มาดูแลฉันแทนแล้ว เขาจึงมีเวลาไปสนใจเรื่องงานมากขึ้น แต่ตอนนี้เรื่องที่ฉันกำลังเครียดก็คือ ลูกก็ได้เดือนหนึ่งแล้ว แต่ว่าทำไมหุ่นของฉันมันไม่ลดลงเลยล่ะ? แถมยังเยอะกว่าแต่ก่อนถึง2เท่า จนสามีถึงกับบอกว่า ตอนนี้ฉันทั้งอ้วนทั้งเตี้ยเอามากๆเลย
จนถึงตอนนี้เขาแทบจะไม่แตะต้องตัวฉัน จนฉันอยากลองใจ บอกว่าอยากมีอะไรด้วย นานแล้วที่เราไม่ได้มีอะไรด้วยกัน แต่เขากลับพูดประโยคนี้ออกมา ทำเอาฉันอึ้งแทบพูดไม่ออก “คุณกลับไปลดน้ำหนักให้ได้ก่อนสิ ลดได้เมื่อไหร่แล้วเราค่อยว่ากัน !” พูดจบเขาก็หันหน้ากลับไปเล่นเกมต่อ แค่มองฉันเขาแทบไม่อยากจะมองเลย
จากนั้นฉันก็หันมาลดน้ำหนัก วันหนึ่งกินแค่แอปเปิ้ลกับแตงกวา แต่น้ำหนักก็ลดไปไม่กี่กิโลเอง หลังท้องเสร็จจะให้กลับไปมีน้ำหนักเท่าเดิม มันเป็นเรื่องที่ยากมากๆเลยนะบางครั้งฉันก็ตั้งคำถามกับตัวเองว่า ฉันต้องทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร และการที่เขาพูดออกมาแบบนี้ เขาคิดบ้างไหมว่ามันทำร้ายจิตใจฉันมาก ต้องอุ้มท้องกว่าเก้าเดือน ยอมเสียสละหุ่นเพื่อลูกน้อยของเรา เขาแทบไม่ต้องทำอะไรเลยด้วยซ้ำ ก็ได้แต่น้อยใจไปวันๆ
แต่กลับมาคิดทบทวนดูดีๆ มันก็เป็นเรื่องจริงที่ฉันควรยอมรับ และแทนที่จะมานั่งเสียใจ น้อยใจ จากที่ต้องการจะลดน้ำหนักทำไมฉันไม่เปลี่ยนมาลดน้ำหนักเพื่อตัวเองดูล่ะ จะได้มีกำลังใจในการลดน้ำหนักมากขึ้น ถ้าหากว่าถึงวันนั้นที่ฉันกลับมามีรูปร่างผอม สวยเหมือนเดิม ถ้าเขาถามขอมีอะไรกับฉันบ้างนะ จะปฏิเสธทันทีเลย คอยดูสิ เป็นผู้หญิงอย่ายอมค่ะ เอาคืนซะให้เข็ด แทนที่จะมานั่งเสียใจกับคำพูดแทงใจดำนั้น เปลี่ยนเอามาเป็นแรงผลักดัน ต้องทำให้เขาเสียดายให้ได้ค่ะ
เป็นยังไงกันบ้าง เรื่องราวของมนุษย์เมียคนนี้ เชื่อว่าสาวๆหลายๆคนคงเคยเจอปัญหานี้กันมาบ้าง โดยเฉพาะคุณแม่มือใหม่ ที่หลังคลอดน้ำหนักก็ไม่ค่อยลง แถมยังดูว่าจะพุ่งทะยานหนักกว่าเดิม จนสามีเอ่ยปากบ่น แต่ถึงอย่างนั้นบางครอบครัวคุณสามีก็น่ารักเสียเหลือเกิน เข้าอกเข้าใจภรรยาของแบบนี้ต้องใช้เวลา
ส่วนทางด้านคุณภรรยาแม้เราจะต้องรับประทานอาหารเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง มีน้ำนมมีแรงเลี้ยงลูก แต่บางทีก็ต้องควบคุมบ้างไม่ควรจะกินตามใจปากมากเกินไป เพราะไม่อย่างนั้นจะลดอยากนะจ๊ะ!!เรียกว่าให้พื้นที่กันคนละครึ่งทางดีที่สุด เพราะคุณผู้ชายก็คงไม่อยากให้ภรรยาที่แสนสวยของเขากลายเป็นสาวตุ้ยนุ้ย !