ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กกล่าวถึงกรณี นายสมชาย แสวงการ อดีต ส.ว. ตั้งคำถามถึง รมว.ยุติธรรม ปลัดกระทรวง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผู้บัญชาการเรือนจำคลองเปรม ให้ช่วยตอบคำถาม สืบเนื่องจากนายพานทองแท้ ชินวัตร, น.ส.พินทองทา ชินวัตร, และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พร้อมด้วยคู่สมรส เดินทางไปเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม
เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ภายหลังการเข้าเยี่ยมได้ปรินท์ภาพที่ถ่ายภาพร่วมกับนายทักษิณด้วยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสโชว์สื่อมวลชนด้านกรมราชทัณฑ์ชี้แจงว่า เป็นการเยี่ยมญาติใกล้ชิดภายใต้โครงการถ่ายภาพร่วมกับครอบครัว ซึ่งเป็นการให้บริการของทางเรือนจำ เป็นความสมัครใจของครอบครัว และผู้ถูกคุมขัง โดยญาติสามารถปรินท์ภาพออกมาเป็นที่ระลึกได้ ไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือส่วนตัวถ่ายภาพ รวมทั้งโครงการนี้ทำต่อเนื่องมาหลายปี
“ขอให้นายสมชายไปศึกษาระเบียบกรมราชทัณฑ์ต่อเรื่องนี้ให้ละเอียดทุกบรรทัด ก่อนที่จะออกมาแสดงความคิดเห็น อย่าใช้อคติส่วนตัวหามุมจับผิด อดีตนายกฯทักษิณถูกรัฐประหารปี 2549 มีการตั้งหน่วยงานปฏิปักษ์ขึ้นมาตรวจสอบ เอาผิด เป็นผู้ถูกกระทำมาโดยตลอด ท่านต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม ไปอยู่เมืองนอกมา 17 ปี แต่ยังมีความรัก ห่วงใยบ้านเมือง พอกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แม้จะถูกจองจำ ก็ยอมรับตามกระบวนการยุติธรรม” นายพร้อมพงศ์ กล่าว
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า น.ส.แพทองธาร และลูกๆ ของนายทักษิณรู้ดีอะไรทำได้ ทำไม่ได้ ตอนเข้าเยี่ยมใช้สิทธิตามปกติ ตามที่เรือนจำอนุญาต ปฏิบัติตามระเบียบทางเรือนจำทุกอย่าง ไม่ได้ใช้สิทธิพิเศษเหนือคนอื่น แปลกหรือที่ลูกไปเยี่ยมพ่อ เมื่อมีโอกาสไม่ต้องสนทนาผ่านกระจกกั้น เมื่อได้ร่วมโต๊ะรับประทานอาหาร ได้ถ่ายภาพตามที่เรือนจำอนุญาต จะแสดงออกซึ่งความรัก ความใกล้ชิด ผูกพันออกมาตามประสาครอบครัว“เท่าที่ทราบโครงการเยี่ยมญาติใกล้ชิดมีมาตั้งแต่ปี 2540 และถูกยกระดับเป็นนโยบายตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน เรือนจำที่มีความพร้อมจะจัดโครงการตามเทศกาลสำคัญๆ ใกล้สงกรานต์ ใกล้ปีใหม่ เพื่อเสริมสร้างความผูกพันอันดีของผู้ถูกคุมขังกับญาติ ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น” นายพร้อมพงศ์ กล่าว
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ไม่อยากให้นายสมชายจับผิดโดยไม่ศึกษาหาข้อมูล การเยี่ยมญาติใกล้ชิดเป็นสิทธิ ของผู้ต้องขังทุกคน ไม่ใช่อภิสิทธิ์ของใคร อะไรอภัยได้ควรอภัยกัน ปล่อยวาง ตัดอคติในใจออกบ้าง ถ้ามีเวลาว่างก็ควรเข้าวัดไปทำบุญ ฟังเทศน์ฟังธรรมบ้าง จิตใจจะได้ลดอคติลง ขนาดคนที่เคยอยู่ตรงข้ามกับพรรคเพื่อไทย อดีตนายกฯ ทักษิณบางคน เมื่อเห็นอดีตนายกฯ ทักษิณกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ถูกจองจำ เขายังยอมรับ ชื่นชมในความกล้าหาญที่ท่านเผชิญหน้ากับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น
นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า เรื่องแบบนี้หากไม่เกิดกับตัว คนใกล้ชิด ญาติพี่น้องคงไม่เข้าใจ ตนอยากให้หันหน้าเข้าหากัน ร่วมกันคิด ร่วมกันทำเพื่อประโยชน์บ้านเมืองดีกว่า โดยเฉพาะเหตุการณ์หลังน้ำท่วมใหญ่ หาดใหญ่และภาคใต้หลายจังหวัด ยังต้องการความคิด ไอเดียดีๆ ที่ต้องฟื้นฟูทั้งด้านจิตใจ เศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่กันอีกมาก
