ฐานเศรษฐกิจ – อนุทิน ตั้ง ‘ภราดร” คุมศูนย์ปฏิบัติการแก้น้ำท่วมสงขลา ดึงผบ.เหล่าทัพร่วมทีม
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 12/2568 เรื่อง การจัดตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เพื่อรับมือสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลา หลังมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568
คำสั่งระบุว่า ให้จัดตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย ใช้ชื่อย่อว่า “ศป.กฉ.” เป็นหน่วยงานพิเศษตามกฎหมาย โดยมี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายภราดร ปริศนานันทกุล เป็นผู้อำนวยการศูนย์
สำหรับองค์ประกอบศูนย์ฯ ประกอบด้วยผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมถึงปลัดกระทรวงสำคัญ อาทิ กลาโหม มหาดไทย คมนาคม สาธารณสุข ทรัพยากรธรรมชาติฯ และหน่วยงานด้านน้ำ ความมั่นคง และการประชาสัมพันธ์ รวมกว่า 28 หน่วยงาน
หน้าที่สำคัญของ ศป.กฉ. คือ การติดตาม ประเมิน วิเคราะห์สถานการณ์ บูรณาการการทำงานของทุกหน่วยงาน เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเป็นธรรมและทั่วถึง พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารเชิงรุก เพื่อให้ประชาชนรับทราบสถานการณ์อย่างถูกต้องนอกจากนี้
นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้จัดตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัยส่วนหน้า หรือ “ศป.กฉ.สน.” โดยมีผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้อำนวยการ เพื่อควบคุมการปฏิบัติในพื้นที่โดยตรงด้านงบประมาณ ให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็นหน่วยงานสนับสนุนทั้งด้านการเงินและธุรการ โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป
โดยคำสั่งเต็มมีรายละเอียดดังนี้ คำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 12/2568 เรื่อง การจัดตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่จังหวัดสงขลา ลงวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 นั้น
เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นไปอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 วรรคสาม และวรรคห้า แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 นายกรัฐมนตรี จึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้ข้อ 1 ให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย เรียกโดยย่อว่า “ศป.กฉ.” เป็นหน่วยงานพิเศษตามมาตรา 7 วรรคห้า แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 โดยมีองค์ประกอบ หน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้
1.1 องค์ประกอบ
- (1) รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้อำนวยการ ศป.กฉ. (นายภราดร ปริศนานันทกุล)
- (2) ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กรรมการ
- (3) ผู้บัญชาการทหารบก กรรมการ
- (4) ผู้บัญชาการทหารเรือ กรรมการ
- (5) ผู้บัญชาการทหารอากาศ กรรมการ
- (6) ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กรรมการ
- (7) ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กรรมการ
- (8) ปลัดกระทรวงกลาโหม กรรมการ
- (9) ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กรรมการ
- (10) ปลัดกระทรวงคมนาคม กรรมการ
- (11) ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรรมการ
- (12) ปลัดกระทรวงมหาดไทย กรรมการ
- (13) ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กรรมการ
- (14) เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กรรมการ
- (15) เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กรรมการ (16) เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรรมการ
- (17) อธิบดีกรมการปกครอง กรรมการ
- (18) อธิบดีกรมชลประทาน กรรมการ
- (19) อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรรมการ
- (20) อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กรรมการ
- (21) อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กรรมการ
- (22) เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติกรรมการ
- (23) ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำกรรมการ
- (24) โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรรมการ และโฆษกศูนย์
- (25) ที่ปรึกษาสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ กรรมการ (พลโท วันชนะ สวัสดี) และโฆษกศูนย์
- (26) ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกรรมการ (นางสาวรัชดา ธนาดิเรก) และโฆษกศูนย์
- (27) เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กรรมการ และเลขานุการ
- (28) รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหารกรรมการ (นายชยันต์ เมืองสง) และผู้ช่วยเลขานุการ
1.2 หน้าที่และอำนาจ
(1) เป็นหน่วยงานเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และกฎหมายที่ได้รับโอนมาเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่จังหวัดสงขลา ลงวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 เพื่อให้สถานการณ์ฉุกเฉินยุติลง
(2) ติดตาม ประเมิน วิเคราะห์สถานการณ์ เพื่อให้สถานการณ์ฉุกเฉินยุติลงโดยเร็ว
(3) บูรณาการ ประสานงาน ขับเคลื่อน และติดตามการปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัยส่วนหน้า เพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือการปฏิบัติงานของหน่วยงานในพื้นที่ ประมวลข้อมูลที่ได้จากการรับเรื่องราวร้องทุกข์ เพื่อคัดกรองและช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยคำนึงถึงความเสียหายที่ผู้ประสบภัยได้รับ เป็นไปอย่างเป็นธรรมและทั่วถึง
(5) ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเชิงรุก เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องตามความเป็นจริง และเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างรัฐบาลและประชาชน
(6) จัดให้มีกำลังข้าราชการทหาร ข้าราชการตำรวจ และข้าราชการพลเรือนเพื่อดำเนินการแก้ไขสถานการณ์อุทกภัยในเขตท้องที่จังหวัดสงขลา รวมทั้งประสานส่วนราชการ
หรือหน่วยงานของรัฐ เอกชน หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง หรือดำเนินการอื่นใดที่จำเป็น เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขสถานการณ์ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
(7) มอบหมายให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนเกี่ยวกับกำลังพลงบประมาณ วัสดุ ครุภัณฑ์ ยานพาหนะ และเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ เพื่อการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน
(8) เรียกให้ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องหรือภาคเอกชน เข้าร่วมประชุม ชี้แจง ให้ข้อมูลข่าวสาร จัดส่งเอกสาร หรือดำเนินการอื่นใดตามที่เห็นสมควร
(9) ดำเนินการอื่น ๆ ตามที่นายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย
ข้อ 2 ให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ทั้งด้านงบประมาณและงานด้านธุรการตามความจำเป็นและเหมาะสม
ข้อ 3 ให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัยส่วนหน้าเรียกโดยย่อว่า “ศป.กฉ.สน.” โดยมีผู้บัญชาการทหารสูงสุดในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นผู้อำนวยการ ศป.กฉ.สน.
ทั้งนี้ การจัดโครงสร้าง การติดต่อสื่อสาร การรายงาน และการติดตามประเมินผลการปฏิบัติงานของศูนย์ ให้เป็นไปตามที่ผู้อำนวยการ ศป.กฉ.สน. กำหนด
ข้อ 4 ให้ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สนับสนุนการดำเนินการของ ศป.กฉ. และ ศป.กฉ.สน. ตามที่ได้รับการร้องขอ
ข้อ 5 การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานของ ศป.กฉ. ตามข้อ 1 ให้เป็นไปตามระเบียบของทางราชการโดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 เป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี



นอกจากนี้ ในวันนี้ 27 พฤศจิกายน 2568 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งอีกฉบับ คือ คำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 365/2568 เรื่อง แต่งตั้งผู้กำกับการปฏิบัติงาน หัวหน้าผู้รับผิดชอบ และพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ระบุว่า
ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่จังหวัดสงขลา ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 นั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 8 วรรคสาม วรรคสี่ และวรรคหก และมาตรา 15 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 นายกรัฐมนตรี จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้
ข้อ 1 นายกรัฐมนตรีเป็นผู้กำกับการปฏิบัติงานของหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน พนักงานเจ้าหน้าที่ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
ข้อ 2 ให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายภราดร ปริศนานันทกุล) เป็นผู้ช่วยผู้กำกับการปฏิบัติงานของนายกรัฐมนตรี และให้ปฏิบัติการกิจตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย
ข้อ 3 ให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน
ข้อ 4 ให้หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน มีหน้าที่และอำนาจในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินตามที่กำหนดไว้ในพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และให้มีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้:
- (1) บังคับบัญชาและสั่งการส่วนราชการและข้าราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดสงขลา
- (2) ดำเนินการอื่นตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย
ในการนี้ มีปัญหาในการปฏิบัติงาน ให้หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หารือหรือผู้ช่วยผู้กำกับการปฏิบัติงาน และรายงานเพื่อให้หน่วยงานหรือผู้กำกับการปฏิบัติงานแก้ไขให้ถูกต้องโดยเร็ว
ข้อ 5 ให้ข้าราชการทหาร ข้าราชการตำรวจ ข้าราชการพลเรือน และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่หรือได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ในเขตท้องที่ตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548
ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ มีหน้าที่และอำนาจดำเนินการตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ตลอดจนข้อกำหนด ประกาศ และคำสั่งที่ออกตามพระราชกำหนดดังกล่าว และเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่และอำนาจตามกฎหมายที่โอนมาเป็นหน้าที่และอำนาจของนายกรัฐมนตรี เว้นแต่นายกรัฐมนตรีจะสั่งเป็นอย่างอื่น การปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามที่หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายกำหนด
ข้อ 6 ให้หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินและพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา และมีหน้าที่และอำนาจเช่นเดียวกับพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เว้นแต่การใช้อำนาจสอบสวนต้องเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นข้าราชการตำรวจซึ่งมียศตั้งแต่ร้อยตำรวจตรีขึ้นไป ข้าราชการทหารยศตั้งแต่ร้อยตรี เรือตรี และเรืออากาศตรีขึ้นไป หรือข้าราชการฝ่ายพลเรือนซึ่งดำรงตำแหน่งตั้งแต่ระดับปฏิบัติการขึ้นไป
ทั้งนี้ ตั้งแต่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 เป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี
ที่มา – ราชกิจจานุเบกษา (คำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๒/๒๕๖๘ เรื่อง การจัดตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ , คำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๓/๒๕๖๘ เรื่อง แต่งตั้งผู้กำกับการปฏิบัติงาน หัวหน้าผู้รับผิดชอบ และพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน )
