ไทยรัฐ – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในร่างกฎหมายเพื่อยุติการปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯ หรือ “ชัตดาวน์” รวม 43 วัน ซึ่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ เพียงประมาณ 2 ชั่วโมงหลังจากหลังสภาผู้แทนราษฎรมีมติ 222 ต่อ 209 เสียง เห็นชอบให้เปิดงบประมาณฟื้นฟูโครงการช่วยเหลือด้านอาหาร จ่ายค่าจ้างพนักงานรัฐหลายแสนคน และฟื้นระบบควบคุมการบินที่หยุดชะงัก
ร่างกฎหมายซึ่งผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาก่อนหน้านี้ จะต่ออายุการจัดสรรงบประมาณจนถึงวันที่ 30 มกราคม โดยจะทำให้หน่วยงานของรัฐกลับมาเปิดทำการได้เร็วที่สุดภายในวันพฤหัสบดี (13 พ.ย.) ขณะที่ยังไม่ชัดเจนว่าบริการของรัฐบาลจะกลับสู่ภาวะปกติเมื่อใด ทั้งนี้ สหรัฐฯ ยังคงมีภาระหนี้รวมกว่า 38 ล้านล้านดอลลาร์ และจะเพิ่มขึ้นอีกราว 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี
การสิ้นสุดของภาวะชัตดาวน์ช่วยให้บริการสำคัญต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านการบิน มีเวลาฟื้นตัวก่อนช่วงวันหยุดขอบคุณพระเจ้าที่กำลังจะมาถึง รวมถึงการกลับมาของโครงการแจกอาหารให้ครอบครัวรายได้น้อยในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ขณะเดียวกัน หน่วยงานสถิติของรัฐบาลจะสามารถเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังต้องหยุดรายงานตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวระบุว่า รายงานตัวเลขการจ้างงานและดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเดือนตุลาคมอาจไม่ถูกเผยแพร่อีกต่อไป
นักเศรษฐศาสตร์ประเมินว่า การปิดหน่วยงานรัฐบาลครั้งนี้ฉุดจีดีพีสหรัฐฯ ลงกว่า 0.1% ต่อสัปดาห์ของการชัตดาวน์ แม้ส่วนใหญ่คาดว่าผลกระทบจะค่อย ๆ ฟื้นคืนในช่วงต่อไป การลงมติดังกล่าวมีขึ้นหลังพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งระดับรัฐหลายแห่งเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ไม่สามารถผลักดันให้ขยายสิทธิประโยชน์เงินอุดหนุนประกันสุขภาพของรัฐบาลกลางได้ ขณะที่ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกัน ยังไม่ให้คำมั่นว่าจะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาในสภา
ในระหว่างการอภิปราย มิกกี้ เชอร์ริล สส.เดโมแครตจากรัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งเพิ่งชนะตำแหน่งผู้ว่าการรัฐ กล่าวสุนทรพจน์สุดท้ายในสภา ก่อนลาออกจากตำแหน่ง โดยเรียกร้องให้เพื่อนร่วมสภา “อย่ายอมให้สภานี้กลายเป็นตราประทับยางสำหรับรัฐบาลที่พรากอาหารจากเด็กและทำลายระบบสาธารณสุขของประชาชน”
แม้ภาวะชัตดาวน์จะสิ้นสุดลง แต่ไม่มีฝ่ายใดถือว่าชนะอย่างชัดเจน ผลสำรวจของรอยเตอร์/อิปซอส ระบุว่า ประชาชน 50% กล่าวโทษพรรครีพับลิกัน ขณะที่ 47% กล่าวโทษพรรคเดโมแครตสำหรับวิกฤตครั้งนี้
นอกจากนี้ การกลับมาทำงานของสภาผู้แทนฯ หลังหยุดพักตั้งแต่กลางเดือนกันยายน ยังนำไปสู่การรื้อฟื้นประเด็นการเปิดเผยเอกสารที่เกี่ยวข้องกับเจฟฟรีย์ เอปสตีน ผู้ต้องหาคดีล่วงละเมิดทางเพศที่เสียชีวิตในเรือนจำ โดยสภาเตรียมพิจารณาการเผยแพร่เอกสารที่ยังไม่เป็นความลับทั้งหมด หลังพรรคเดโมแครตเปิดเผยเอกสารบางส่วนเพิ่มเติมในวันเดียวกัน
ร่างกฎหมายงบประมาณฉบับนี้ยังมีบทบัญญัติให้สมาชิกวุฒิสภาจำนวน 8 คน ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจากกระทรวงยุติธรรมได้สูงสุด 5 แสนดอลลาร์ หากถูกละเมิดความเป็นส่วนตัวจากการสืบสวนเหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม ปี 2021 พร้อมชำระค่าทนายความและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ย้อนหลังอีกด้วย.
