แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรหลอก รอง ผบก.มือปราบซิมบ๊อกซ์ เช็กพิกัด พบอยู่ในคอนโดพื้นที่ จ.นนทบุรี ขอหมายค้นยึดของกลางเพียบ เตรียมขยายผลจับผู้เกี่ยวข้อง
นนทบุรี: เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 ต.ค.68 พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ประธาน นันทกอบกุล รอง ผบก.สส. พ.ต.อ.วิทิต จันทร์เอี่ยม รอง ผบก.สส. พ.ต.อ.พูนสุข เตชะประเสริฐพรผกก.สส.1 บก.สส.ภ.1 พร้อมกำลังตำรวจสืบสวน บก.สส.ภ.1 นำหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ ค.903/2568 เข้าตรวจค้นห้องพักในคอนโดแห่งหนึ่ง พื้นที่ ต.บางรักใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
จากการตรวจค้นภายในห้องพักพบเครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์แบบใส่ซิมการ์ด (ซิมบ๊อกซ์ ) 1 เครื่อง สามารถใส่ซิมการ์ดได้ 32 ช่อง โมเด็มต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ต 1 เครื่อง กล้องวงจรปิด 1 ตัว ไว้ดูความเคลื่อนไหว เครื่องสำรองไฟ 1 ตัว ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 1 ปทุมธานี ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดนนทบุรี เดินทางมาตรวจเก็บรายนิ้วมือแฝงและดีเอ็นเอ ส่งเปรียบเทียบประวัติอาชญากร เพื่อดำเนินคดี
การตรวจค้นครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อที่ 20 ต.ค.68 พ.ต.อ.ประธาน นันทกอบกุล รอง ผบก.สส.ภ.1 ได้มีบุคคลโทรศัพท์เข้ามาแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทเครือข่ายมือถือ อ้างว่า พ.ต.อ.ประธาน เปิดหมายเลขโทรศัพท์ และมีความเกี่ยวข้องกับแก๊งค้ายาเสพติดทางภาคใต้ มีเงินที่เกี่ยวข้องอีกด้วย ให้โอนเงินมาให้ตรวจสอบ ขณะที่กำลังจะขอหมายเลขบัญชีเพื่อจะโอนเงิน เพื่อให้ได้ข้อมูลของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่คนร้ายไหวตัวทันวางสายไป
หลังเกิดเหตุตำรวจสืบสวนภาค 1 ได้ตรวจสอบข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ ที่ใช้โทรเข้ามา พบว่าสัญญานอยู่ที่คอนโดดังกล่าว จึงนำหมายค้นเข้าตรวจค้นพบเครื่องซิมบ๊อกซ์ และอุปกรณ์ ตรวจสอบพบ น.ส.หน่อย อายุ 39 ปี ชาว จ.สระแก้ว เป็นผู้เช่าห้องดังกล่าวไว้ได้ประมาณ 1 เดือน ตำรวจเชื่อว่าผู้เช่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อย่างแน่นอน
ตำรวจจะออกหมายจับในข้อหา ร่วมกันทำ มีใช้ นำเข้า นำออกหรือค้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต, ร่วมกันตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต
ตำรวจจะสืบสวนขยายผลดำเนินคดี บุคคลที่เกี่ยวข้อง ตามกฎหมาย ส่วนของกลางได้ตรวจยึดส่งพนักงานสอบสวนสภ.บางบัวทอง ดำเนินคดี
พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ตำรวจกวาดล้างจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่หลอกลวงประชาชน ซึ่งเป็นนโยบายเร่งด่วน หลังมีการปิดด่านชายแดนด้านประเทศกัมพูชา ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลบหนีเข้ามายังประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติ และนำอุปกรณ์เข้ามาติดตั้งกระจ่ายอยู่ทั่ว เพื่อใช้โทรหลอกประชาชน ตำรวจ บก.สส.ภ.1 จึงได้นำกำลังสืบสวนจับกุมและตรวจยึดอุปกรณ์ ไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อได้





