วันที่ 14 ต.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร่างกฎหมาย H.R. 5490 หรือ ร่างพระราชบัญญัติ Dismantle Foreign Scam Syndicates Act รื้อถอนขบวนการหลอกลวงข้ามชาติ ที่เสนอในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 18 ก.ย.68 โดยนายเจฟเฟอร์สัน ชเรฟ สส.เขต 6 รัฐอินดิแอนา พรรครีพับลิกัน เพื่อจัดตั้ง “คณะทำงานเฉพาะกิจระหว่างหน่วยงาน” (Interagency Task Force) เพื่อรื้อถอนและปิดกั้นเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติที่ดำเนินการหลอกลวงออนไลน์ขนาดใหญ่ต่อชาวอเมริกัน
โดยรายละเอียดร่างกฎหมายดังกล่าว ระบุว่า สภาคองเกรสค้นพบว่า ในช่วงการระบาดของโควิด-19 กลุ่มอาชญากรรมจีนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เปลี่ยนรูปแบบอาชญากรรมมาสู่ “การหลอกลวงการลงทุนสกุลเงินดิจิทัล” ที่ซับซ้อน รูปแบบที่พบมากที่สุดคือการหลอกให้เหยื่อสร้างความสัมพันธ์ออนไลน์แล้วค่อย ๆ ลงทุนมากขึ้นจนหมดตัว
กลุ่มอาชญากรเหล่านี้ใช้ “แรงงานบังคับ” จากเหยื่อค้ามนุษย์หลายแสนคนในการดำเนินกลโกง เหยื่อจำนวนมากถูกหลอกด้วย “ประกาศรับสมัครงานปลอม” ก่อนถูกนำตัวไปกักขังและบังคับให้ทำงานใน “ศูนย์โกง” ศูนย์โกงเหล่านี้พบมากใน เมียนมา ลาว และกัมพูชา ประเทศที่มีการทุจริตสูง ขาดหลักนิติธรรม และมักมีการร่วมมือระหว่างรัฐบาลเผด็จการกับกลุ่มอาชญากรรมจีน
ตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา การหลอกลวงรูปแบบนี้ได้มุ่งเป้าไปที่ชาวอเมริกันมากขึ้น ทำให้คนอเมริกันหลายพันคนสูญเสียเงินเก็บทั้งหมด ความเสียหายเพิ่มขึ้น 33% ในปี 2024 กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประเมินว่าชาวอเมริกันสูญเงิน ไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ จากขบวนการนี้ในปี 2024 และทั่วโลก ความเสียหายรวมสูงกว่า 60,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี
ทั้งนี้ มีความเชื่อมโยงที่น่ากังวลระหว่าง รัฐบาลจีน เจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์จีน กลุ่มอาชญากรรม และนักการเมืองท้องถิ่นที่ทุจริตในภูมิภาค
โดยในส่วนที่ 7 ของกฎหมายมีการระบุถึง การกำหนดมาตรการคว่ำบาตร ต่อบุคคล นิติบุคคลต่างชาติ ภายในไม่เกิน 180 วันหลังจากวันที่ประกาศใช้พระราชบัญญัตินี้ ประธานาธิบดีจะต้องดำเนินการตามกลยุทธ์ที่กำหนดไว้
อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายดังกล่าว ยังระุบถึงชื่อบุคคลและนิติบุคคลต่างชาติถึง 36 ราย ซึ่งประธานาธิบดีต้องกำหนดและประกาศคว่ำบาตรบุคคลต่างชาติที่มีรายชื่อในบัญชีแนบท้ายนี้ บุคคลที่ถูกระบุมีทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกัมพูชา และนักธุรกิจจีนรายใหญ่ที่เคยปรากฎเป็นข่าวใหญ่เกี่ยวกับเจ้าพ่อสแกมเมอร์ ทุนสีเทาข้ามชาติด้วย