ข่าวประจำวัน » ฟ้องอนุทิน-เท้ง แล้ว !! MOA พ่นพิษ ส.ว.สำรองเริ่มก่อน ผิดรธน.ฮั้วตั้งนายก

ฟ้องอนุทิน-เท้ง แล้ว !! MOA พ่นพิษ ส.ว.สำรองเริ่มก่อน ผิดรธน.ฮั้วตั้งนายก

1 October 2025
85   0

สว.สำรองยื่นร้อง อสส. ส่งศาล รธน. ตีความยุบพรรคภูมิใจไทย-พรรคประชาชน เซ่นปม MOA แทรกแซงพรรคการเมือง อาจเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง

วันนี้ (30 ก.ย.68) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนเเจ้งวัฒนะ นายอัครวัฒน์ พงศ์ธนาชลิตกุล สมาชิกวุฒิสภาสำรอง เดินทางมา ยื่นเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบการกระทำความผิดของกลุ่มบุคคลที่อาจเข้าข่ายเป็นการล้มล้างการปกครอง โดยร้องเรียนเอาผิด 2 บุคคล 2 พรรคการเมือง ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร, พรรคภูมิใจไทย เเละพรรคประชาชน

โดยนายอัครวัฒน์ เผยว่า เนื่องจากทั้งสองพรรคทำ MOA ที่พรรคประชาชนจะสนับสนุนเลือกนายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี แต่มีเงื่อนไขว่า ต้องเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยและต้องยุบสภาภายใน 4 เดือน จึงมองว่า MOA ดังกล่าวมีลักษณะเป็นการแทรกแซงก้าวก่ายพรรคการเมืองระหว่างกัน หรือ “สัญญาทาส” ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และจะทำให้ประชาธิปไตยของประเทศไม่พัฒนา เกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อยและฝ่ายค้านเสียงข้างมาก ที่สร้างความเคลือบแคลงสงสัยไม่มั่นใจแก่ประชาชนว่า ฝ่ายค้านจะสามารถถ่วงดุลตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐบาลได้ รวมทั้ง MOA ดังกล่าว มีลักษณะเหมือนเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่กลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง

ดังนั้น จึงมองว่าผู้ถูกร้องทั้ง 4 มีการกระทำที่เข้าข่ายเป็นการล้มล้างการปกครองตามมาตรา 49 ของรัฐธรรมนูญ จึงตัดสินใจรวบรวมหลักฐานมายื่นเรื่องต่อสำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งอัยการสูงสุดจะต้องพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับเรื่องภายใน 15 วัน ถ้าอัยการสูงสุดไม่พิจารณารับเรื่องหรือปล่อยให้เกิน 15 วัน กลุ่ม สว.สำรอง ก็เตรียมจะยื่นฟ้องศาลรัฐธรรมนูญโดยตรง ตามมาตรา 49 วรรค 3 ของรัฐธรรมนูญ โดยผลของการกระทำดังกล่าว ถึงขั้นทำให้ทั้ง 2 พรรคถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคได้

นายอัครวัฒน์ กล่าวอีกว่า โดยหลักประชาธิปไตยแล้ว พรรคการเมืองกลุ่มใดสามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้ จะต้องจัดตั้งรัฐบาล แต่สภาวะการเมืองไทยตอนนี้ กลายเป็นว่าฝ่ายค้านมีเสียงข้างมากจากการทำ MOA ซึ่งตนและประชาชนคนไทยอีกหลายคนก็เห็นตรงกันว่า เป็นเพียงแค่การเอื้อผลประโยชน์ให้แก่คนบางกลุ่มและเอาเปรียบพรรคอื่น การกำหนดเงื่อนไขให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยและยุบสภาภายใน 4 เดือน ทั้งที่สภาผู้แทนราษฎรยังมีวาระอีกตั้งปีกว่า ถือเป็นการทำให้เกิดความเสื่อมเสียแก่ระบอบประชาธิปไตยและสิ้นเปลืองงบประมาณในการเลือกตั้ง

นอกจากนี้ บทบาทของพรรคประชาชนตอนนี้เหมือนเป็นแค่ฝ่ายค้านค้ำรัฐบาล เล่นละครตรวจสอบแบบลิเกไปวัน ๆ สร้างความผิดหวังให้แก่ประชาชนเป็นอย่างมาก จึงขอให้ประชาชนดูกันต่อไปว่าทั้ง 2 พรรคที่ทำ MOA กัน จะมีผลประโยชน์อะไรต่างตอบแทนกันหรือไม่ ทั้งนี้ แม้ตัวเองจะเป็นเพียงแค่ สว.สำรอง แต่ก็ถือว่ามีหน้าที่สำคัญที่จะต้องตรวจสอบทุกการกระทำของพรรคการเมืองทุกฝ่าย ยืนยันว่าตนทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง อิสระ ไม่ฝักใฝ่ หรือเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง เมื่อเห็นว่ามีพรรคการเมืองหรือกลุ่มบุคคลที่กระทำผิดกฎหมายและขาดความซื่อสัตย์สุจริต ก็ควรจะต้องยื่นเรื่องเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ ผิดก็ว่ากันไปตามผิด

เพราะถึงแม้ตนเองจะเป็นแค่ สว.สำรอง แต่ก็ต้องการอยากเห็นนักการเมืองที่มีความซื่อสัตย์สุจริต ปฏิบัติตามกฎหมายให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม สร้างความเป็นธรรมให้แก่ประชาชน และเป็นนักการเมืองที่มุ่งสร้างประโยชน์ให้แก่ประชาชน ไม่ใช่แสวงหาผลประโยชน์เห็นแก่อำนาจ ซึ่งพวกตนก็คงยอมไม่ให้ใครมาปล้นระบอบประชาธิปไตยและทำลายกฎหมายได้