ข่าวประจำวัน » โจ๊ก แฉทักษิณ !! เคยเสนอตำแหน่ง ผบ.ตร.แลกต้องฟังคำสั่ง

โจ๊ก แฉทักษิณ !! เคยเสนอตำแหน่ง ผบ.ตร.แลกต้องฟังคำสั่ง

20 September 2025
54   0

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดใจครั้งแรก เล่าเบื้องหลังถูก “ทักษิณ” เรียกพบที่ชั้น 14 เสนอเก้าอี้ ผบ.ตร. แต่เจ้าตัวเลือกทางการเมืองท้องถิ่น ตั้งเป้าพัฒนาสงขลา

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก” เปิดใจให้สัมภาษณ์แบบตรงไปตรงมา หลังจากห่างหายจากสื่อมวลชนและสังคมมาระยะหนึ่ง เผยถึงการใช้ชีวิตในช่วงเวลาที่เงียบหาย ปัญหาทางการเมืองที่รุมเร้า การต่อสู้ในคดีความ รวมถึงความมุ่งมั่นในเส้นทางอนาคตที่วางเอาไว้

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยอมรับว่า ที่ผ่านมาแม้จะมีสื่อหลายสำนักพยายามติดต่อขอสัมภาษณ์ แต่ตนเลือกที่จะปฏิเสธเพราะอยากใช้เวลาอยู่กับตัวเอง โดยส่วนใหญ่อาศัยอยู่ที่สงขลา สลับกับการอยู่กรุงเทพฯ  

ส่วนตัวไม่ใช่คนชอบท่องเที่ยว แต่เป็นคนชอบทำงาน เมื่อไม่มีงานในหน้าที่ ตนจึงหันไปพัฒนาตนเอง ทั้งการเรียนต่อ การศึกษาด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการทำงานในอนาคต และการทำบุญตามวัดต่าง ๆ รวมถึงการปฏิบัติธรรม

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังเผยด้วยว่า ครั้งหนึ่งสมัยยังเป็นรอง ผบ.ตร. เคยถูก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เรียกไปพบที่ชั้น 14 โดยทักษิณได้บอกตรง ๆ ว่า “โจ๊ก เดี๋ยวผมจะให้คุณเป็น ผบ.ตร.” แต่มีเงื่อนไขให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุวิมล ขึ้นก่อน 1 ปี ซึ่งก็อย่าไปฟ้องร้องอะไร เพราะ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ อาวุโสต่ำและเหลืออายุราชการเพียงปีเดียว ก่อนที่บิ๊กโจ๊ก จะบอกนายทักษิณว่า ตนไม่ฟ้องหรอก เพราะเหลืออายุราชการอีกหลายปี จากนั้นนายทักษิณยังบอกว่า หลังจาก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้เป็นแล้ว ก็จะให้เป็น ผบ.ตร. ซึ่งก็แน่นอนว่าตนเป็นอาวุโส 1

พร้อมกันนี้ ยังได้บอกกับ นายทักษิณด้วยว่า ตนมีปัญหาอายุราชการที่ยังเหลือหลายปี

“เอาแบบนี้ได้ไหมครับนาย ผมเป็นแค่ 2 ปีพอ แล้วผมจะลาออก เพราะผมเบื่อแล้ว ก่อนที่นายทักษิณจะตอบว่า ไม่ได้ ถ้าจะลาออก เดี๋ยวมาเป็นรัฐมนตรีอยู่กับเรา”

ก่อนที่บิ๊กโจ๊กจะบอกกับทักษิณว่า “ตำแหน่งรัฐมนตรีผมก็ไม่เอา เอาแบบนี้ ความมุ่งหวังของผมคืออยากไปเป็นนายก อบจ.ที่สงขลา เพราะผมอยากพัฒนาบ้านเกิด ผมอยากพัฒนาจังหวัดสงขลาของผมให้เป็นเมืองมรดกโลก”

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เผยว่า นายทักษิณกล่าวสั้นๆ ว่า “ถ้าทำดี ฟังเรา จะให้อยู่จนเกษียณ” แต่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงยื่นข้อเสนอสุดท้ายว่า ถ้าตั้งเขาเป็น ผบ.ตร. วันไหน เขาจะเขียนใบลาออกไว้เลย โดยมีผลเมื่อครบ 2 ปี แต่ท้ายที่สุดถูกสั่งให้ออกจากราชการเสียก่อน

แม้เส้นทางราชการจะเต็มไปด้วยอุปสรรค แต่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า เป้าหมายใหญ่ที่สุดในชีวิตคือการลงสมัครเป็นนายก อบจ.สงขลา เพราะอยากพัฒนาบ้านเกิดให้ดีขึ้น ทั้งด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว เนื่องจากมองว่า สงขลาสามารถพัฒนาให้เทียบเท่าฮาวายได้ แต่ปัญหาคือการทุจริตในระดับท้องถิ่นยังหนักหน่วง ตนไม่สนใจการเมืองระดับชาติ แต่เชื่อมั่นว่าหากได้เป็นผู้นำท้องถิ่นโดยตรงจากการเลือกตั้ง จะสามารถทำงานเพื่อประชาชนได้จริง

พร้อมย้ำว่า หากยังมีคดีติดค้างอยู่ ก็ไม่สามารถไปทำอะไรได้ ต้องเคลียร์ให้จบก่อน จึงจะเดินหน้าสู่เป้าหมายสำคัญในชีวิต นั่นคือการเป็นนายก อบจ.สงขลา เพื่อคืนสิ่งดีงามให้บ้านเกิด 

“บิ๊กโจ๊ก” เผย มีสายตรง เบรกคดีเศรษฐา! 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เชื่อว่าปัญหาที่เผชิญเกี่ยวพันกับการเมืองทั้งภายในและภายนอกสำนักงานตำรวจฯ โดยเฉพาะคดีเลี่ยงภาษีที่คุณชูวิทย์ ร้องเรียนถึงนายกฯ เศรษฐา เขาได้รับมอบหมายให้สอบสวน และคืบหน้าไปแล้วกว่า 70% พบหลักฐานการเลี่ยงภาษีบางส่วน แต่เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลกลับมีคำสั่งให้หยุดดำเนินการ ทั้งจากผู้บังคับบัญชา และบุคคลมีชื่อเสียงจากต่างประเทศที่โทรศัพท์มาขอร้อง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงเชื่อว่าการทำตามหน้าที่ทำให้ตนเองถูกกระทบ แต่ในตอนนั้นตนทำตามหน้าที่ ก็ต้องทำอย่างเต็มที่เท่านั้นเอง ไม่เช่นนั้นจะมาเป็นตำรวจทำไม จึงมั่นใจว่าสิ่งที่ตนทำ ชาวบ้านรู้สึกได้