ข่าวประจำวัน » ฟังแล้วหนาว !! หมอวรงค์ เผยหลังฟังการไต่สวนชั้น 14 จนท.คุกแฉหมด

ฟังแล้วหนาว !! หมอวรงค์ เผยหลังฟังการไต่สวนชั้น 14 จนท.คุกแฉหมด

8 July 2025
44   0

วันที่ 8 กรกฎาคม เวลา 09.00 น. ที่ศาลฎีกา ถนนราชดำเนินใน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนคดีหมายเลขดำที่ บค.1/2568 กรณีตรวจสอบข้อเท็จจริงการบังคับโทษคดีถึงที่สุด นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 

โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ศาลได้ไต่สวน นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ คนปัจจุบัน เกี่ยวข้อเท็จจริงในขั้นตอนของการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษานอกเรือนจำ ต่อมาได้ไต่สวนบุคลากรทางการแพทย์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจำนวน 5 ปาก โดยในวันนี้จะเป็นการไต่สวนพยานที่เป็นกลุ่มเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จำนวน 9 ปาก

นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันนี้เป็นการนัดไต่สวนครั้งที่ 3 โดยจะไต่สวนพยานทั้งหมด 9 คน ที่เป็นกลุ่มพัศดีเวร ผู้คุมและชุดปฏิบัติการพิเศษที่ควบคุมตัวนายทักษิณ จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ มารักษาตัวยังรพ.ตำรวจ ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ตนยังไม่สามารถพูดได้เนื่องจากศาลกำชับเอาไว้

นายวิญญัติ กล่าวอีกว่า ในวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตนทราบว่ามีบุคคลหลายคนเอาข้อเท็จจริงที่ศาลได้ถามไปให้รายละเอียดต่อสาธารณะ แม้จะไม่ใช่การให้รายละเอียดแบบคำต่อคำ ตนก็ถือว่าเป็นรายละเอียด ในวันนี้ตนจะถามองค์คณะผู้พิพากษาว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของศาลหรือไม่ และถ้าเป็นเช่นนั้นจะมีมาตราการอย่างไรต่อไป

เมื่อถามว่าเรื่องการยื่นพยานอีก 10 ปากความคืบหน้าเป็นอย่างไรบ้าง นายวิญญัติ กล่าวว่า คงจะเหลืออีกไม่มาก เนื่องจากพยาน 10 ปากที่เราเตรียมไว้ส่วนใหญ่เป็นพยานที่ศาลออกหมายเรียกมาอยู่แล้ว และยังเหลือส่วนที่เป็นพยานสำคัญและมีส่วนที่จะต้องให้ข้อเท็จจริงต่อศาลเพิ่มเติม หลังจากนี้จะต้องคัดดูว่าซ้ำกับศาลมากน้อยแค่ไหน แต่เท่าที่ตนเห็นรายชื่อพยานก็ซ้ำกับที่ศาลเรียกจำนวนมากแล้ว ตนจึงคิดว่าน่าจะเหลือพยานอีกไม่เกิน 3 ปากที่จะต้องนำมาเพิ่ม

โดยในช่วงเช้าศาลไต่สวนพยาน 5 ปาก เป็นเจ้าหน้าที่พัศดีและเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพที่ปฏิบัติหน้าที่ต่อเนื่องระหว่างคืนวันที่ 22 สิงหาคม 66 ถึงช่วงสายวันที่ 23 สิงหาคม   66 มาเบิกความในการรับตัวนายทักษิณที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ  รวมถึงการส่งตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพไปรักษาที่รพ.ตำรวจ 

ล่าสุด นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ กล่าวภายหลังเข้าฟังการไต่สวนพยานคดี “ทักษิณ” ชั้น 14 ว่า ของดให้รายละเอียดเกี่ยวกับการสอบพยาน เนื่องจากศาลกำชับไว้ ซึ่งหากมีการเผยแพร่ข้อมูลส่วนใด ก็ขอให้กระชับมากที่สุด ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ส่วนกังวลหรือไม่ว่าจะเป็นการล่วงละเมิดอำนาจศาล นพ.ตุลย์ มองว่าถ้าหากมีอะไรที่เกินเลย แล้วทางทนายเขาตรวจสอบได้ ร้องต่อศาลก็คงต้องออกคำสั่งในที่สุด แต่ท่านก็บอกว่าจะพยายามกำชับทางผู้เข้าฟังรวมทั้งสื่อมวลชน ขอให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม 

ส่วนบรรยากาศในการเข้าฟังการสอบพยานขณะนี้ผ่านไปแล้ว 3 ท่าน 2 ท่านแรกคือพัศดีเวร ก็ได้รับแจ้งจากพยาบาลเวรสมควรส่งตัว เนื่องจากเป็นโรคหัวใจ ส่วนท่านที่ 3 ตำแหน่งนี้ค่อนข้างแปลก เป็นนักทรัพยากรบุคคล ได้รับคำสั่งให้สแตนบายตั้งแต่ช่วงเย็น ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าเป็นกรณีพิเศษหรือไม่ โดยเจ้าตัวบอกว่าติดตามตั้งแต่ในรถพยาบาลจนถึงโรงพยาบาลตำรวจ โดยเขายืนยันว่าตรงมาอย่างเดียว ไม่ผ่านรพ.ราชทัณฑ์ ไปที่ตึกผปร.โดยตรง ซึ่งท่านนี้อยู่ใน 1 ใน 4 ท่าน ที่ได้รับคำสั่งจากเรือนจำหรือราชทัณฑ์ ให้มาผลัดเวรควบคุมตัว คืนนั้นอยู่จนถึงเช้า 

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าในการไต่สวนมีอะไรที่ผิดสังเกตหรือไม่นพ.ตุลย์ กล่าวว่า แปลกใจเรื่องที่บอกมีการเปลี่ยนห้องไปมา และมีการตรวจไม่แน่ใจว่าใช่แพทย์หรือไม่ แต่เจ้าตัวยืนยันว่าอยู่กับ นายทักษิณ ทั้งคืน 

ด้านนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาพรรคดี กล่าวว่า ในช่วงเช้ามีการสอบพยานหลายราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่จากกรมราชทัณฑ์และเรือนจำพิเศษ ซึ่งศาลมีคำสั่งชัดเจนห้ามเผยแพร่รายละเอียดใด ๆ จากการไต่สวน เนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อรูปคดี โดยเฉพาะในประเด็นที่ฝ่ายจำเลยได้ยื่นคำร้องขอความร่วมมือจากศาลไม่ให้เผยแพร่ข้อมูลเชิงลึก ซึ่งศาลก็ได้เน้นย้ำกับสื่อมวลชนให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

“ผมอยากพูดความในใจนิดหนึ่งครับ ฟังแล้ว ‘หนาวเลย’ ก็ขอให้สื่อไปพิจารณาเอาเอง” นพ.วรงค์กล่าว  พร้อมย้ำว่าการพิจารณาคดีในวันนี้ยังไม่แล้วเสร็จ โดยในช่วงบ่ายจะมีการสอบพยานเพิ่มเติมอีก 4 ราย หลังจากสอบพยานไปแล้ว 5 ราย

นอกจากนี้ นพ.วรงค์ ยังกล่าวอีกว่า การสอบพยานในครั้งต่อไป ศาลอาจเข้มงวดมากขึ้น ถึงขั้นไม่อนุญาตให้จดบันทึกด้วยปากกาในห้องพิจารณาคดี เพื่อป้องกันการนำข้อมูลภายในออกไปเผยแพร่สู่สาธารณะ.