พีระพันธุ์ ‘พังเพราะเมีย’ หลัง MFC ปฏิเสธรับโอนหุ้นบริษัทชนัตถ์และลูก 21 % ของ ‘สุนงค์’ ทำให้ยังเป็นผู้ถือหุ้นเหมือนเดิม เข้าข่ายฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 และฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง
.
หลังจากมีผู้ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง การถือหุ้นในบริษัทเอกชนของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาครองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่อาจขัดต่อมาตรา 187 แห่งรัฐธรรรมนูญไทย ประกอบพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. 2543 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 (การขัดกันแห่งผลประโยชน์)
.
มาตรา 187 แห่งรัฐธรรมนูญ บัญญัติว่า
‘รัฐมนตรีต้องไม่เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทหรือไม่คงไว้ซึ่งความเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทต่อไปตามจำนวนที่กฎหมายบัญญัติ “
.
มาตรา 187 ยังใช้บังคับกับคู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของรัฐมนตรีด้วย
.
สำหรับบริษัทๆดังกล่าวได้แก่บริษัท รพีโสภาค จำกัด และถือหุ้นในบริษัทอื่น ได้แก่บริษัท วีพีแอโร่เทค จำกัด บริษัท พีแอนด์เอส แลนด์แอนด์ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด บริษัท โสภา คอลเล็คชั่นส์ จำกัด
.
ล่าสุดมีข้อมูลว่าคู่สมรสนายพีระพันธุ์ คือ นางสุนงค์ สาลีรัฐวิภาค อาจมีการกระทำที่ขัดต่อ มาตรา 187 ด้วย เพราะยังเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ชนัตถ์และลูก ร้อยละ 21.68
.
นางสุนงค์ เคยโอนหุ้นดังกล่าวให้แก่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (MFC) เข้ามาเป็นผู้จัดการหุ้นดังกล่าวแทนตัวเอง เมื่อ 25 ธันวาคม 2566 และ 4 กันยายน 2567
.
อย่างไรก็ตามในข้อบังคับข้อที่ 6 ของบริษัทชนัตถ์และลูก จำกัด ได้มีการกำหนด ‘ห้ามมิให้ถือหุ้นโอนหุ้นของบริษัทให้แก่บุคคลภายนอกเว้นแต่จะโอนหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมหรือผู้สืบสันดานของผู้ถือหุ้นเดิม’
.
นางสุนงค์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นย่อมทราบถึงข้อบังคับของบริษัทดีอยู่แล้ว แต่ยังกระทำการฝ่าฝืนข้อบังคับดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงเจตนาว่าไม่ต้องการให้การโอนหุ้นนั้นมีผลตามกฎหมาย
ต่อมาบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด จึงมีหนังสือปฏิเสธการโอนหุ้นต่อนายทะเบียนกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและ MFC เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 และในวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 นางสุนงค์ ได้เข้าประชุมและใช้สิทธิในฐานะผู้ถือหุ้นของบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด
.
หลังจากนั้นในวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 MFC แจ้งนางสุนงค์ว่า ขอยกเลิกการรับโอนหุ้นของบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด และขอเพิกถอนหนังสือสัญญาโอนหุ้นทั้ง 2 ฉบับของบริษัทชนัตถ์และลูก จำกัด โดยให้การโอนหุ้นสิ้นสุดลงและมีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2566 เสมือนไม่เคยมีการโอนหุ้นกันมาก่อน
.
เท่ากับว่านางสุนงค์ คู่สมรสของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ยังคงถือหุ้นบริษัทชนัตถ์และลูก 21.68% มาตั้งแต่ต้น ไม่เคยมีการโอนหุ้นออกไปให้บริษัทจัดการหลักทรัพย์ถือหุ้นแทน เพื่อให้เป็นไปตาม ม 187 แห่งรัฐธรรมนูญ ทั้งยังใช้สิทธิเข้าประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ที่ผ่านมาด้วย
.
การเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทชนัตถ์และลูกของนางสุนงค์ จะส่งผลคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีของ นายพีระพันธุ์ด้วย เพราะเข้าข่ายฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ ประกอบพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. 2543 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 (การขัดกันแห่งผลประโยชน์)
.