ข่าวประจำวัน » “ยาพาราฯ” อย่าใช้พร่ำเพื่อ อาจเสี่ยงตับพัง รู้แล้วแชร์บอกเพื่อนด่วน!!

“ยาพาราฯ” อย่าใช้พร่ำเพื่อ อาจเสี่ยงตับพัง รู้แล้วแชร์บอกเพื่อนด่วน!!

6 July 2017
340   0

ช่วงนี้ประเทศไทยเราก็เข้าสู่หน้าฝนแล้ว พอตอนเย็นเลิกงานปุ๊บฝนก็ตกปั๊บ เผลอๆเช้าช่วงเวลาออกไปทำงานก็ตกอีก อย่างนี้ร่างกายเราที่ดดนฝนบ่อยๆ จะทนไหวได้อย่างไงก็ต้องเจ็บป่วยกันบ้างเป็นธรรมดา พอเราป่วยไม่ว่าจะ ปวดหัว ไอ จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล เป็นไข้ เป็นหวัด เชื่อเลยว่าหลายคนต้องนึกถึง “ยาพาราฯ” เป็นสิ่งแรก บางทียังไม่ทันป่วยด้วยซ้ำก็กินยาพาราดักไว้ก่อนแล้ว แต่ทุกคนรู้ไหมว่าการกิน “ยาพาราฯ” บ่อยๆ ไม่เป็นผลดีต่อร่างกายเลย

ยาพาราฯ เป็นยาลดไข้ที่ดีที่สุดที่ใช้ในปัจจุบัน แต่ก็ส่งผลให้เกิดการเป็นพิษต่อตับ เริ่มตั้งแต่การทำงานของตับ ไปจนถึง ภาวะตับวายอย่างเฉียบพลัน และนำไปสู่การเสียชีวิตได้ ซึ่งการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ต่อตับเกิดจากการรับประทานยามากกว่าขนาดยาสูงสุดที่แนะนำต่อวัน

การใช้ยาพาราเซตามอลให้ปลอดภัยต้องดูที่ขนาด
ผศ.นพ.พิสนธิ์ แนะนำว่า ควรกินตามน้ำหนักตัว คูณด้วย 10 หรือ 15 จะได้ขนาดยาเป็นมิลลิกรัมที่เหมาะกับตัวเรา (แต่ต้องไม่เกิน 1,000 มิลลิกรัมต่อครั้ง) เช่น หนัก 50 กิโลกรัม ขนาดยาที่เหมาะคือ 500 หรือ 750 มิลลิกรัม ซึ่งเท่ากับยา 1 เม็ด หรือ 1 เม็ดครึ่ง (ถ้าตัวใหญ่ คูณน้ำหนักแล้วเกิน 1,000 ก็กินได้ไม่เกิน 2 เม็ด) ขนาดยาสูงสุดต่อวันสำหรับผู้ใหญ่
– ขนาดมาตรฐานทั่วไป ไม่เกิน 4,000 มิลลิกรัม โดยรวมถึงยาที่มีส่วนผสมของพาราเซตามอลอยู่ด้วยเช่น ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาบรรเทาหวัด เป็นต้น
– สำหรับคนตัวเล็ก ควรไม่เกิน 3,000-3,250 มิลลิกรัม (เป็นค่าเพื่อความปลอดภัยที่สูงขึ้น)
– สำหรับผู้ที่ต้องกินต่อเนื่องระยะยาว ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ไม่เกิน 2,500-2,600 มิลลิกรัม
– ผู้ป่วยโรคตับ หรือดื่มสุราเป็นประจำ ต้องกินไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม
– สำหรับผู้ป่วยที่ต้องรับยาวาร์ฟาริน คือ ยาต้านทานการแข็งตัวของเลือด ที่ทางการแพทย์ใช้รักษาและป้องกันภาวะอุดตันของหลอดเลือด อันมีสาเหตุจากการทำงานของเกล็ดเลือดที่ผิดปกติ
(ภาวะลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ) ควรกินไม่เกินครั้งละ 1,300-1,500 มิลลิกรัม

ขนาดยาสูงสุดต่อวันสำหรับเด็กอายุ 0-12 ปี
ไม่เกิน 75 มิลลิกรัม/กิโลกรัม หมายถึงคูณน้ำหนักตัวเด็กด้วย 10 หรือ 15 คือมิลลิกรัมที่เหมาะต่อการป้อนยา 1 ครั้ง วันละไม่เกิน 5 ครั้ง ควรอ่านฉลากให้เข้าใจเสมอว่ายาที่กำลังจะป้อนเด็ก 1 ช้อนชาหรือ 5 ซีซี นั้น มีตัวยากี่มิลลิกรัมการบริโภคยาพาราฯ เกินขนาดจะไม่เห็นอาการในเร็ววัน จะเห็นก็ต่อเมื่อระยะอันตราย เป็นตับอักเสบ ตับแข็ง และก่อให้เกิดมะเร็งตับแล้ว ดังนั้น ควรใช้ยาเมื่อมีความจำเป็น เพิ่มความระมัดระวังโดยการอ่านฉลากข้อมูลผลิตภัณฑ์อย่างเคร่งครัดทุกครั้งที่จะมีการใช้ยา