# หนาวแน่!!!! ขีปนาวุธโสมแดงยิงถล่มถึงอลาสก้าแล้ว
สถานีโทรทัศน์ของทางการเกาหลีเหนือ ประกาศความสำเร็จในการยิงทดสอบขีปนาวุธ “ฮวาซอง-14” (Hwasong-14) ซึ่งเป็นขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM )เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (4 ก.ค.) ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกที่เกาหลีเหนืออ้างว่าประสบความสำเร็จในการพัฒนาขีปนาวุธที่สามารถยิงได้ไกลถึงเขตแดนของสหรัฐอเมริกา
สื่อของทางการเกาหลีเหนือระบุว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุด ได้ไปกำกับการยิงทดสอบขีปนาวุธครั้งนี้ด้วยตนเอง โดยขีปนาวุธดังกล่าวพุ่งทะยานไปเป็นระยะทาง 933 กิโลเมตร เป็นเวลา 37 นาที และขึ้นสู่ระยะสูงสุดบนท้องฟ้าที่ 2,802 กิโลเมตรเหนือพื้นโลก ก่อนจะตกลงทำลายเป้าหมายในน่านน้ำที่คาดว่าเป็นเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมากองทัพสหรัฐฯ ระบุว่า อุปกรณ์ตรวจจับขีปนาวุธของตนชี้ว่าขีปนาวุธดังกล่าวของเกาหลีเหนือเป็นเพียงขีปนาวุธพิสัยกลาง และไม่เป็นภัยต่อภูมิภาคอเมริกาเหนือ
ก่อนหน้านี้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนแสดงความเห็นว่า เกาหลีเหนือยังไม่มีศักยภาพในการพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปให้โจมตีเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ทั้งยังคงไม่สามารถพัฒนาหัวรบนิวเคลียร์ที่มีขนาดเล็กพอจะติดตั้งบนขีปนาวุธชนิดดังกล่าวได้
นายเดวิด ไรท์ นักฟิสิกส์จากสหภาพนักวิทยาศาสตร์ผู้ห่วงกังวลต่อปัญหาอาวุธนิวเคลียร์ บอกกับผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำกรุงโซลว่า หากรายงานข้อมูลของขีปนาวุธที่ถูกยิงทดสอบวันนี้ในสื่อต่างๆ เป็นจริง คาดได้ว่าขีปนาวุธนี้จะมีพิสัยยิงได้ไกลสูงสุดราว 6,700 กิโลเมตร ซึ่งไม่ไกลพอที่จะโจมตีแผ่นดินใหญ่สหรัฐฯหรือฮาวาย แต่สามารถยิงโจมตีพื้นที่ของรัฐอลาสก้าทั้งหมดได้
ประธานาธิบดีมุน เจ อิน ของเกาหลีใต้ ได้เรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติเป็นการด่วนหลังการยิงขีปนาวุธดังกล่าวของเกาหลีเหนือ ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 11 แล้วในปีนี้ ส่วนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ลงข้อความทางทวิตเตอร์โดยพาดพิงถึงนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือว่า “นายคนนี้มีอะไรทำแบบที่ดีไปกว่านี้ในชีวิตไหม ? เหลือเชื่อว่าเกาหลีใต้และญี่ปุ่นจะทนต่อไปอีก บางทีจีนอาจจะจัดการเกาหลีเหนือหนัก ๆ ให้เรื่องไร้สาระนี้มันจบสิ้นไปเสียที”
เหตุยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดนี้มีขึ้น หลังจากที่ผู้นำสหรัฐฯ ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเมื่อวานนี้ (3 ก.ค.) เพื่อหารือถึงประเด็นเรื่องเกาหลีเหนือ โดยทางทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐฯได้แถลงต่อสื่อมวลชนภายหลังว่า ผู้นำจีนและเกาหลีใต้ยังคงยืนยันยึดมั่นในพันธกิจของตนที่จะมุ่งทำให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดนิวเคลียร์ให้จงได้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวระหว่างการพบหารือกับผู้นำเกาหลีใต้ที่กรุงวอชิงตันว่า สหรัฐฯสิ้นสุดความอดทนอดกลั้นที่มีต่อเกาหลีเหนือแล้ว และขณะนี้ถึงเวลาต้องตอบโต้เกาหลีเหนืออย่างจริงจัง
# BBC
ฐิติพันธุ์ คุณดิลกมณี
ข่าววิหคนิวส์ รายงาน