จีนต่อต้านการแลกเปลี่ยนทางการทูตและการติดต่ออย่างเป็นทางการระหว่างสหรัฐฯ กับไต้หวันอย่างหนักแน่น หม่าเสี่ยวกวง โฆษกสำนักงานกิจการไต้หวันแห่งจีนแผ่นดินใหญ่ (Taiwan Affairs Office of the State Council) กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (13 มิ.ย.) เนื่องจากทีมบริหารของทรัมป์ได้สร้างความยุ่งเหยิงทางการเมืองอีกครั้ง
การประณามของจีนในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเมื่อเช้าวันอังคารที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้เปิดตัวสถาบันอเมริกาในไต้หวัน (American Institute in Taiwan:AIT) (โดยพฤตินัยทำหน้าที่เป็นเหมือนสถานทูต) โดยมีนางมาเรีย รอยซ์ (Marie Royce) ผู้ช่วยรมว.ต่างประเทศฝ่ายกิจการการศึกษาและวัฒนธรรมของสหรัฐฯ เข้าร่วมในพิธีเปิดด้วย สหรัฐฯ กล่าวว่าการเปิดตัวสำนักงานแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงความแข็งแกร่งในการเป็นหุ้นส่วนกับไต้หวัน
“ฝ่ายสหรัฐฯ ควรเคารพหลักการจีนเดียวและปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของแถลงการณ์ร่วม 3 ฉบับระหว่างจีนกับสหรัฐ เพื่อหลีกเลี่ยงความสัมพันธ์อันสุ่มเสี่ยงรวมถึงรักษาสันติภาพและความมั่นคงของช่องแคบไต้หวัน” หม่ากล่าว
แถลงการณ์ 3 ฉบับดังกล่าวที่ได้รับการลงนามในช่วงทศวรรษที่ 1970 และ 1980 กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า “ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน”
โดยเมื่อวันอังคาร กระทรวงการต่างประเทศของจีนได้แสดงความเห็นคัดค้านความเคลื่อนไหวดังกล่าว พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐฯ แก้ไขการกระทำที่ไม่ถูกต้องและให้เกียรติกับคำมั่นสัญญาของตนที่เคยให้ไว้กับจีนเกี่ยวกับประเด็นเรื่องไต้หวัน
จีนระบุว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่รัฐบาลทรัมป์ล้ำเส้นและท้าทายหลักการจีนเดียว ซึ่งจีนได้กล่าวย้ำถึงหลักการนี้มาโดยตลอดว่าเป็นข้อกำหนดพื้นฐานและรากฐานทางการเมืองของจีนในการสร้างความร่วมมืออันเป็นมิตรระหว่างจีนกับประชาคมโลก
จีนกำลังเพิ่มความสัมพันธ์กับหลายชาติในทั่วโลก เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทั้งสาธารณรัฐโดมินิกันและบูร์กินาฟาโซได้ตัดสัมพันธ์กับไต้หวันและสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับปักกิ่ง
สำนักข่าววิหคนิวส์