15 เม.ย.61 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ส.ส.เจเรมี คอร์บีน หัวหน้าพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นฝ่ายค้านหลัก ได้ออกมาโจมตีนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ หลังสั่งการให้กองทัพอังกฤษเข้าร่วมปฏิบัติการทางทหารกับกองทัพสหรัฐอเมริกาและฝรั่งเศส เพื่อทำลายอาวุธเคมีในครอบครองของกองทัพซีเรีย เมื่อวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา
ส.ส.เจเรมี คอร์บีน กล่าวว่า การทิ้งระเบิดโจมตีไม่ได้ช่วยชีวิตคนหรือทำให้เกิดสันติภาพ การกระทำที่น่าจะมีปัญหาทางกฎหมายนี้ เสี่ยงทำให้ความขัดแย้งที่เลวร้ายอยู่แล้วร้ายแรงยิ่งขึ้นไปอีก นายกรัฐมนตรีเมย์ควรขออนุมัติจากรัฐสภาอังกฤษ ไม่ใช่เดินตามหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ
ทั้งนี้ สส.คอร์บีน ยังได้ส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเมย์ขอให้รับปากว่าจะไม่ใช้ระเบิดโจมตีซีเรียอีกและเร่งจัดการเจรจาเรื่องหยุดยิงในซีเรีย
ด้านพรรคแห่งชาติสกอตที่เป็นฝ่ายค้านอันดับสาม พรรคเสรีประชาธิปไตยที่เป็นฝ่ายค้านอันดับสี่ และพรรคกรีนที่มี สส.เพียงคนเดียว ก็ไม่เห็นด้วยกับการที่นายกรัฐมนตรีเมย์ไม่หารือกับสภาก่อน ขณะที่พรรคสหภาพประชาธิปไตยที่เป็นพรรคใหญ่ที่สุดในไอร์แลนด์เหนือ และเป็นพันธมิตรกับพรรคอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรีเมย์มองว่า เป็นการโจมตีอย่างจำกัดที่เหมาะสมและชอบธรรม
ทั้งนี้โดยปกติแล้วการสั่งการกองทัพเป็นสิทธิพิเศษของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ที่ไม่ต้องขอความเห็นชอบจาก สส. แต่พรรคอนุรักษ์นิยมที่ขึ้นเป็นรัฐบาลในปี 2553 ได้เสนอแนะว่า สส.ควรมีสิทธิออกเสียงในเรื่องนี้ ยกเว้นกรณีฉุกเฉิน เพราะนายกรัฐมนตรีโทนี แบลร์ของพรรคแรงงานได้สร้างบรรทัดฐานมาก่อน ด้วยการขอให้ สส.ลงมติเรื่องส่งทหารร่วมกับสหรัฐบุกอิรักในปี 2546
ก่อนหน้านี้รัฐบาลอังกฤษออกแถลงการณ์ยืนยันว่า เป็นการโจมตีที่ถูกกฎหมายเพื่อบรรเทาความทุกข์ยากด้านมนุษยธรรมร้ายแรงให้แก่ชาวซีเรียด้วยการลดความสามารถของรัฐบาลซีเรีย ที่จะใช้อาวุธเคมี และเป็นไปตามกฎหมายสากลบนพื้นฐานที่มีข้อยกเว้น รัฐบาลอังกฤษเชื่อว่า รัฐบาลซีเรียได้ก่ออาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติด้วยการใช้อาวุธเคมี รัฐบาลอังกฤษพยายามให้นานาชาติดำเนินการผ่านสหประชาชาติแล้ว แต่ถูกรัสเซียพันธมิตรของซีเรียขัดขวาง
Cr:แนวหน้า
สำนักข่าววิหคนิวส์