“มาร์ค”ชี้คำสั่งม.44ลิดรอนสิทธิเสรีภาพ-ผิดกระบวนการ ขณะที่ทีมกฎหมายปชป.เคาะ5ประเด็นสร้างภาระให้ประชาชนเกินจำเป็น แถมยังเลือกปฏิบัติไม่ได้สร้างความเท่าเทียมระหว่างพรรคการเมืองใหม่กับพรรคการเมืองเก่า ลุย2ช่องทางยื่นผ่านผู้ตรวจการแผ่นดิน-ศาลรัฐธรรมนูญโดยตรง
เมื่อวันที่ 8 ม.ค.61 naewna นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณียื่นศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบเแห่งชาติ (คสช.) ที่ 53/2560 ว่า เบื้องต้นคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์จะมีการประชุมและยกร่างคำร้องในวันนี้ เพื่อเตรียมยื่นผ่านผู้ตรวจการแผ่นดิน
ทั้งนี้ พรรคมีข้อสังเกตเกี่ยวกับคำสั่งดังกล่าวที่ระบุว่าหากสมาชิกพรรคต้องการเป็นสมาชิกต่อ ให้สมาชิกพรรคทำหนังสือยืนยันแจ้งหัวหน้าพรรค แต่ถ้าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ติดต่อระหว่างหน่วยงานอื่นให้ผ่านทางระบบสารสนเทศและระบบอิเล็กทรอนิกส์ แต่ช่องทางนี้กลับไม่ให้ใช้ในการติดต่อระหว่างหัวหน้าพรรคและสมาชิกพรรค นอกจากนี้ สมาชิกแสดงหลักฐานว่ามีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ซึ่งตนสงสัยว่าหลักฐานคืออะไร ทั้งหลักฐานที่แสดงว่าไม่เป็นบุคคลล้มละลาย ไม่เป็นบุคคลเสพยา เสพติดไม่เป็นบุคคลที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง เป็นต้น
“ทั้งหมดมีลักษณะเป็นการลิดรอนสิทธิและเป็นภาระเกินจำเป็นของสมาชิกพรรคและการแจ้งเรื่องราวให้แก่สมาชิกพรรค จำนวน 3 ล้านกว่าคน ภายใน 30 วัน ถือเป็นภาระเกินจำเป็นของหัวหน้าพรรคด้วย อีกทั้งเห็นว่าการแสดงหลักฐานบังคับใช้แต่กับพรรคการเมืองเก่า แต่สำหรับพรรคการเมืองใหม่ไม่ต้องแสดงหลักฐาน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวต่อว่า ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 77 วรรคสอง กำหนดให้การตรากฎหมายใดๆ จะต้องรับฟังความคิดเห็นประชาชน และต้องไม่ขัดกับกระบวนการตามปกติ ซึ่งกรณีนี้เป็นการแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญเสียก่อน แต่สำหรับคำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับนี้อาจขัดทั้งในแง่สิทธิเสรีภาพและกระบวนการ ประกอบกับตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ไม่ได้เขียนรับรองการใช้อำนาจมาตรา 44 แสดงว่าสามารถโต้แย้งได้ อีกทั้งทุกคนต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ การใช้อำนาจของหัวหน้า คสช.จึงต้องใช้ตามรัฐธรรมนูญด้วย ดังนั้น การออกคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/2560 จึงไม่เข้าเงื่อนไขการใช้อำนาจมาตรา 44
เวลา 16.00 น.นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงภายหลังการประชุมทีมกฎหมาย ว่า ทีมกฎหมายมีความเห็นเบื้องต้น ให้ควรส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/2560 ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยพบประเด็นว่า
1.แม้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน จะรับรองอำนาจหัวหน้า คสช.ตามมาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 ไว้ แต่ไม่สามารถใช้ออกคำสั่งที่ละเมิดรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันซึ่งผ่านการออกเสียงประชามติได้ และไม่ได้ใช้เพื่อการปฏิรูปและรักษาความสงบตามเงื่อนไขที่มาตรา 44 กำหนดไว้
2.คำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับนี้ ยังเข้าข่ายสร้างภาระเกินจำเป็นให้กับสมาชิกพรรคการเมือง ที่ต้องทำหนังสือต่อหัวหน้าพรรคการเมือง เพื่อยืนยันสถานะความเป็นสมาชิกพรรคภายใน 30 วัน พร้อมต้องรับรองว่า มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญด้วย ซึ่งขั้นตอนนี้จะทำให้สมาชิกพรรคการเมือง ต้องไปขอหนังสือรับรองจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ (สตช.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ศาลยุติธรรม ศาลล้มละลาย และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 14 หน่วยงาน และเป็นไปไม่ได้ที่ คสช.และหน่วยงานเหล่านี้ จะอำนวยความสะดวกรับรองให้สมาชิกพรรคการเมือง ทั้งหมดกว่า 3 ล้านคน และถ้าไม่สามารถยืนยันได้ในกรอบเวลา ก็จะพ้นจากความเป็นสมาชิกพรรคการเมือง
3.การออกคำสั่ง คสช.เพื่อแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ยังเข้าข่ายไม่ได้รับฟังความเห็นจากประชาชน ตามที่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันกำหนดเงื่อนไขไว้ ถือว่าเป็นการแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ที่ไม่ได้เป็นไปตามขั้นตอนในรัฐธรรมนูญ
4.แม้คำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 ฉบับนี้ มีนัยยะ ต้องการให้สมาชิกพรรคการเมือง มีเวลาทบทวนตัวเอง แต่ในขณะที่พรรคการเมืองยังไม่สามารถประชุมเพื่อกำหนดนโยบายหรือตัวผู้บริหารพรรคได้ จึงไม่มีเหตุที่สมาชิกพรรคการเมืองต้องมาทบทวนตัวเอง
และ 5.เนื้อหาสาระในคำสั่งฉบับนี้ เข้าข่าย เลือกปฏิบัติ ไม่ได้สร้างความเท่าเทียมระหว่างพรรคการเมืองใหม่กับพรรคการเมืองเก่า
นายวิรัตน์ กล่าวว่า ดังนั้น ในช่วงบ่ายวันที่ 9 ม.ค.นี้ จะนำข้อสรุปของทีมกฎหมาย เข้าหารือกับหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อตัดสินใจว่าจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือไม่ โดยเบื้องต้นแล้วคิดไว้ 2 ช่องทาง คือ สามารถยื่นในนามพรรคผ่านผู้ตรวจการแผ่นดินตามช่องทางปกติ และสามารถยื่นส่วนบุคคลต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยตรง ในกรณีของสมาชิก พรรคที่ถูกละเมิดสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้อยากให้ผู้ตรวจการแผ่นดินและศาลรัฐธรรมนูญ ตระหนักถึงเรื่องนี้ เพราะกระทบคนหมู่มาก และส่วนตัวแล้วคิดว่าจะใช้สิทธิ์ส่วนบุคคลยื่นโดยตรงด้วย
สำนักข่าววิหคนิวส์