7 ม.ค.61 naewna ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง อดีตรองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้โพสต์ข้อความลงในเฟชบุ๊กส่วนตัว “หมวดเจี๊ยบ Sunisa Divakorndamrong” ระบุว่า ถ้า ปปช.แก้หลักเกณฑ์ ให้เจ้าหน้าที่รัฐรับของขวัญได้เกิน 3,000 บาท นอกจาก จะสวนทางกับกระแสรณรงค์ไม่รับของขวัญในส่วนราชการ หรือ No Gift Policy แล้ว ยังอาจจะทำให้ส้มหล่นใส่ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เฟอะฟะจะซื้อลูกสุนัขเป็นของขวัญให้รัฐมนตรีในราคาเกินกว่ากฎหมายกำหนดด้วย
ปปช.อย่าไปเชื่อแนวคิดที่ว่าการกำหนดให้เจ้าหน้าที่รัฐรับของขวัญมูลค่าไม่เกิน 3,000 บาท นั้น เป็นตัวเลขที่ล้าสมัยและไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพในยุคปัจจุบัน เพราะเหตุผลแบบนี้มันผิดประเด็นและไม่สอดคล้องกับการปราบโกง
อันที่จริง ขณะนี้หน่วยงานภาครัฐนั้นก้าวหน้าไปถึงขั้นรณรงค์ No Gift Policy โดยประกาศนโยบายไม่รับของขวัญปีใหม่จากผู้ใต้บังคับบัญชา หรือนักธุรกิจ แล้วด้วยซ้ำ เพื่อความโปร่งใสและป้องกันการสร้างคอนเนคชั่นในทางที่ผิด เช่น กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นต้น
เรื่องนี้ได้รับเสียงเชียร์จากสังคม และภาคเอกชนก็เริ่มหันมาทำตามด้วย แม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะทำเหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาว แทนที่จะนำร่องหรือผลักดันนโยบายไม่รับของขวัญให้เป็นวาระแห่งชาติ กลับทำตัวเฟอะฟะเสียเองโดยประกาศต่อหน้านักข่าวว่าจะซื้อลูกสุนัขเป็นของขวัญให้เพื่อนรัฐมนตรี ทั้งๆ ที่ มูลค่าของขวัญนั้นสูงเกินกว่าที่ กม.อนุญาตให้รัฐมนตรีสามารถรับได้
ถึงจะเป็นนายกฯ ก็ควรศึกษากฎหมายบ้างว่าอะไรที่ตัวเองทำได้หรือทำไม่ได้ อย่าทำตัวมีอภิสิทธิ์แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย ถึงจะเรียกว่ามือสะอาดจริง การไปยืนไขว้แขวนให้นักข่าวถ่ายรูปในงานปราบโกงมันเป็นแค่เรื่องฉาบฉวยแต่ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา
ทั้งนี้ ถ้า ปปช.เปลี่ยนหลักเกณฑ์มูลค่าการให้ของขวัญเจ้าหน้าที่รัฐในช่วงนี้ ระวังจะถูกโยงว่าต้องการช่วยฟอกขาวให้ผู้มีอำนาจได้ เพราะนอกจากกรณีความเฟอะฟะของ พล.อ.ประยุทธ์ เรื่องลูกสุนัขแล้ว ก็ยังมีประเด็นการตรวจสอบนาฬิกาของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ด้วยที่สังคมกำลังจับตามองอยู่ และไม่ทราบว่าจะได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนหลักเกณฑ์มูลค่าของขวัญนี้ด้วยหรือไม่
ที่สำคัญ ปปช.เอง ก็เป็นหนึ่งในองค์กรอิสระที่ไม่ถูกเซ็ตซีโร่ ทั้งยังได้รับการต่ออายุอีกด้วย จึงควรระวังท่าทีต่างๆ ด้วย
สำนักข่าววิหคนิวส์