ณัฐวุฒิ ชวน พรรคการเมือง ต้านนายกฯคนนอก ชี้ เป็นการหักหลังเจ้าของอำนาจ
เมื่อวันที่ 6 มกราคม นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กล่าวว่า ที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกตัวว่าเป็นนักการเมืองในช่วงนี้ ไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้น เพราะเป็นการพูดถึงสถานะที่ตัวเองได้เป็นมาตลอด นับตั้งแต่การยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เมื่อเป็นเช่นนั้น แม่น้ำทั้ง 5 สายจะต้องยอมรับสถานะตัวเองด้วยว่า เป็นนักการเมืองเช่นกัน เพราะทั้งหมดได้ถูกแต่งตั้ง จากอำนาจทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างไรก็ตาม หลังปีใหม่ที่ผ่านมา เป็นที่น่าสังเกตว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ปรับเปลี่ยนท่วงทำนองในการสื่อสารให้มีความนุ่มนวลมากขึ้น พร้อมแสดงออกถึงความชัดเจนในทิศทางทางการเมืองของตัวเอง ซึ่งมองได้ว่าเป็นการส่งสัญญาณถึงประชาชนให้ยอมรับบทบาทของตัวเอง เพื่อวางแผนกลับมามีอำนาจอีกครั้ง หลังการเลือกตั้ง
“จริงๆแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนักการเมืองอยู่แล้ว แต่การบอกกับประชาชนเช่นนี้ ก็เพื่อให้ประชาชนเปิดใจรับได้ เป็นการตีไพ่ไว้ก่อน นี่คือบันไดอีกขั้น ที่ผ่านการคิดอ่านแล้วค่อยขยับเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อส่งสัญญาณถึงประชาชน อย่างไรก็ตาม เมื่อเป็นเช่นนั้น คนที่ประกาศตัวว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยจะต้องรักษาจุดยืนให้มั่นคง ซึ่งไม่ใช่การปฎิเสธตัวบุคคลหรือกลุ่มบุคคล แต่เป็นการปฏิเสธวิธีการเข้าสู่อำนาจซึ่งขัดกับหลักการประชาธิปไตย ถ้ามีการเลือกตั้ง ก็จะต้องรณรงค์ให้นายกฯมาจากการเลือกตั้ง” นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ทิศทางของบ้านเมืองไม่ได้อยู่ที่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่อยู่ที่สังคมโดยรวม ซึ่งจะต้องดูว่าในหลายปีที่ผ่านมานั้น ประเทศไทยได้สรุปบทเรียนหรือไม่ และอนาคตจะเดินต่อไปได้อย่างไร ถ้าหากสังคมไทยเปิดรับอำนาจที่ไม่ได้มาจากความเห็นชอบของประชาชน นั่นหมายความว่าประชาธิปไตยของประเทศไทยยังอีกยาวไกล ส่วนพรรคเพื่อไทยจะเป็นฝ่ายค้านหรือไม่หากมีนายกฯคนนอก คิดว่าไม่ใช่แค่พรรคเพื่อไทย แต่พรรคการเมืองทั้งหมด ในระบบการเลือกตั้ง ไม่ควรสนับสนุนให้มีนายกฯคนนอก แต่หากมีขึ้นจริงๆ การเป็นฝ่ายค้านถือเป็นเรื่องสง่างาม เพราะถ้าเอาอำนาจของประชาชนไปให้นายกฯคนนอก จะถือเป็นการหักหลังเจ้าของอำนาจ
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า แม้ คสช.จะปูทางเพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ คนนอก แต่หาก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกคนนอกจริง ก็จะเจอกับเงาของตัวเองที่เคยประกาศว่าจะทำตามสัญญาขอเวลาอีกไม่นาน ไม่สนใจที่จะสืบทอดอำนาจ ซึ่งเหล่านี้ล้วนขัดกับสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะไปยืนในฐานะนายกฯ หลังการเลือกตั้ง สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของผู้มีอำนาจในขณะนี้ คือเงาของตัวเอง ซึ่งขัดกับสิ่งที่ได้พูดมาโดยตลอด เพราะอะไรที่เคยพูดไว้ จะตามตัวไปตลอด
สำนักข่าววิหคนิวส์