Naewna มีความเห็นตามมาอย่างมากมายภายหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกมายอมรับสถานะ “นักการเมือง” ของตัวเองเป็นครั้งแรก โดยเฉพาะการตั้งคำถามตามมาว่าสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ พูดออกมานั้นมีเจตนาส่งสัญญาณถึงเป้าหมายการอยู่ยาวในอำนาจต่อไปหรือไม่ ขณะที่ฝ่ายของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้ออกมาหงายไพ่เพิ่มขึ้นอีก 1 ใบ นั่นคือการประกาศไม่ปิดโอกาสของตัวเองจากตำแหน่ง “นายกฯคนนอก” หลังการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
“มาร์ค”เหน็บเป็นนักการเมืองต้องฟังปชช.
โดยเมื่อวันที่ 4 มกราคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาแสดงความเห็นกรณี พล.อ.ประยุทธ์ ออกมายอมรับสถานะนักการเมืองของตัวเองว่า เป็นเรื่องดี เพราะนายกฯเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมานาน ดังนั้นจึงขอให้เดินหน้าปฏิรูปโดยทำให้เห็นว่านักการเมืองที่ดีจะต้องเป็นอย่างไร ต้องมุ่งหน้าแก้ปัญหาให้กับประชาชน รับฟังเสียงประชาชน พร้อมรับการตรวจสอบ ยอมรับความแตกต่าง
โยนถาม”บิ๊กตู่”เองอยากอยู่ยาวหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ไม่ขอวิเคราะห์ว่าการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ยอมรับว่าเป็นนักการเมือง ถือเป็นการเปิดตัวสำหรับอนาคตทางการเมืองหรือไม่ ต้องถาม พล.อ.ประยุทธ์ เอง ส่วนพรรคประชาธิปัตย์จะเดินหน้าทำให้ประชาชนเห็นว่าเป็นที่พึ่งได้ เชื่อว่าหลังจากนี้คงมีพรรคการเมืองใหม่เกิดขึ้นหลายพรรค ถือเป็นเรื่องดี เพราะประชาชนมีทางเลือกมากขึ้น
(อ่านรายละเอียดข่าว : มาร์คชี้เรื่องดี! บิ๊กตู่รับเป็นนักการเมืองเต็มตัว ทำปชช.มีทางเลือกมากขึ้น)
“อ๋อย”เย้ยร้อนตัวกลัวไม่ได้อยู่ยาว
ด้าน นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊คเรื่อง “พล.อ.ประยุทธ์ : เป็นนักการเมืองจริงหรือ?” ว่า นายกรัฐมนตรีถือเป็นข้าราชการการเมือง เมื่อเป็นผู้มีอำนาจและใช้อำนาจทางการเมืองในการบริหารประเทศ ไม่ว่าจะสังกัดพรรคการเมืองหรือไม่ ก็ถือได้ว่าเป็นนักการเมือง แต่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันมาตลอดว่า ตนเองไม่ใช่นักการเมือง เพราะต้องการเหยียดหยามประณามนักการเมืองว่า เป็นคนเลวและเป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งหลายทั้งปวง แต่พอมีคนเสนอให้หาทางป้องกันไม่ให้รัฐบาลทหารครองอำนาจต่อไปอีกนานๆ พล.อ.ประยุทธ์ ก็รู้สึกเดือดร้อน ต้องออกมาปฏิเสธว่า ตนไม่ใช่รัฐบาลทหาร แต่เป็นนักการเมือง ดังนั้นการพูดเช่นนี้เพียงต้องการที่จะไม่ให้ตนเองต้องตกเป็นเป้าและลดแรงต่อต้านที่มีต่อรัฐบาลทหาร เพื่อให้ตนเองอยู่นานๆ และสามารถกลับเข้าสู่อำนาจได้อีกครั้งหลังการเลือกตั้ง
ชี้สอดคล้องข่าวตั้งพรรคทหาร
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การออกมายอมรับดังกล่าว เพราะจำนนด้วยหลักฐานหรือไม่ กล่าวคือ จะเห็นได้ว่า การลงพื้นที่ในการประชุม ครม. สัญจรก็ดี หรือส่วนตัวก็ดีมีการนัดพบกลุ่มนักการเมืองทั้งโดยเปิดเผยและในทางลับ สอดคล้องกับข่าวการตั้งพรรคทหารหรือพรรคการเมืองที่สนับสนุนนายกรัฐมนตรี ที่มาจากคนนอกประกอบกับเมื่อมีคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 เท่ากับรีเซ็ตสมาชิกพรรคการเมือง และอดีตส.ส.โดยอ้อม การอ้างว่า เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันระหว่างพรรคการเมืองเก่ากับพรรคการเมืองใหม่ เป็นกลยุทธที่จะเอาเปรียบทางการเมือง หรือไม่ จึงอาจจะเพิ่มน้ำหนักว่า เป็นการดำเนินการเพื่อประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง
จี้รีบปล่อยผี-พูดให้ชัดเลือกตั้งเมื่อไร
นายนพดล ปัทมะ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวเช่นกันว่า การออกมายอมรับของ พล.อ.ประยุทธ์ ถือเป็นการยอมรับความจริง เพราะพรรคเพื่อไทยย้ำเรื่องนี้มาตลอดว่าท่านเป็นนักการเมือง โดยปีใหม่นี้คงเป็นปีสุดท้ายก่อนเข้าสู่การเลือกตั้ง ดังนั้นรัฐบาลและ คสช. ควรประมวลปัญหาของประเทศและประชาชน แล้วจัดลำดับความเร่งด่วนในการแก้ให้สำเร็จภายใต้กรอบเวลาที่จำกัด อย่าสร้างปัญหาการเมืองเพิ่ม และลดเงื่อนไขแห่งความไม่ไว้วางใจให้น้อยลง เช่น ความชัดเจนในการจัดการเลือกตั้ง คนไทยไม่ควรต้องมาตั้งคำถามรายวันว่า ปี 61 จะมีการเลือกตั้งหรือไม่ ควรเร่งสร้างบรรยากาศให้บ้านเมืองเป็นปกติโดยการเปิดพื้นที่เสรีภาพ ในการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง การให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้
“โคทม”เชื่อส่งสัญญาณชัดอยากอยู่ยาว
นายโคทม อารียา นักวิชาการอิสระ กล่าวว่า การยอมรับสถานะนักการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นการส่งสัญญาที่ชัดเจน ทั้งการยอมรับในบทบาทนักการเมืองที่ตัวเองเคยปฏิเสธความจริงมาก่อน และถือเป็นการแปลงโฉมผ่านวาทกรรมเพื่อเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งการแปลงโฉมดังกล่าวถือเป็นการประกาศการสืบทอดอำนาจผ่านตัวตนที่ชัดเจน หลังจากก่อนหน้านี้ คสช. วางการสืบทอดอำนาจแบบแฝง ผ่านกติกา และระเบียบต่างๆ เช่น รัฐธรรมนูญ, พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ, คำสั่ง คสช., สมาชิกวุฒิสภา จำนวน 250 คน ที่มาจากการแต่งตั้ของ คสช. เป็นต้น
“จากพฤติกรรมของ คสช. หรือ พล.อ.ประยุทธ์ สะท้อนให้เห็นเจตนาที่จะสืบทอดอำนาจต่อไปอย่างชัดเจน แต่ตอนนี้ผมประเมินไม่ได้ว่า บิ๊กตู่ จะกระโดดลงสู่สนามการเมืองหรือไม่ แต่เมื่อเขาเปลี่ยนวาทกรรม โดยให้ตัวเองมีสถานะเป็นนักการเมือง สะท้อนว่าเขาคลายมุมมองต่อนักการเมืองที่โกงกิน คอร์รัปชั่น สร้างความวุ่นวายลง และอาจเป็นไปได้ว่าต่อไปเขาอาจร่วมมือหรือสนับสนุนพรรคการเมือง ทั้งทางตรง หรือทางอ้อมต่อไป” นายโคทม กล่าว
“ไพบูลย์”อวยงัดม.88เป็นนายกฯสมัย2
นายไพบูลย์ นิติตะวัน แกนนำเครือข่ายประชาชนปฏิรูป กล่าวว่า ขอชื่นชม พล.อ.ประยุทธ์ ที่ยอมรับบทบาทของตนเองฐานะนักการเมือง ทั้งนี้เส้นทางสู่สนามการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ ตามรัฐธรรมนูญจะไม่สามารถลงเลือกตั้ง เป็น ส.ส. หรือบทบาทตามการเลือกตั้งได้ แต่ในทางปฏิบัติยังมี 2 ช่องทาง คือ รับการเสนอชื่อเป็นผู้ที่พรรคการเมืองสนับสนุนเป็นนายกฯ ตามมาตรา 88 และ รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งนายกฯ ในการประชุมร่วมรัฐสภา กรณีที่รัฐสภาไม่สามารถให้ความเห็นชอบบุคคลในบัญชีรายชื่อนายกฯของพรรคการเมือง ตามมาตรา 272 วรรคสอง
“บิ๊กตู่”ยอมรับไม่ปิดโอกาสนั่งนายกฯคนนอก
วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ ได้เปิดใจอีกครั้งถึงสาเหตุว่าที่ผ่านมาไม่เคยให้ความชัดเจนเรื่องอนาคตทางการเมือง ไม่ว่าการลงสมัครรับเลือกตั้งหรือการเป็นนายกรัฐมนตรีคนนอกว่า สื่อน่าจะรู้คำตอบดีว่า หากพูดไปแล้วก็จะเป็นการตัดทาง เพราะไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่ทั้งนี้การเป็นนายกฯคนนอก ก็ถือว่าเป็นไปตามระบบ เพราะรัฐธรรมนูญได้เปิดทางไว้ หากพรรคการเมืองไม่สามารถเลือกนายกฯเองได้ในสภา ก็สามารถเสนอนายกฯคนนอกได้เพื่อตัดเรื่องการปฎิวัติ ต่อไปนี้จะไม่มีการปฎิวัติแล้ว เพราะนายกรัฐมนตรีคนนอก ก็เลือกกันในรัฐสภา แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครเสนอตนเองให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนนอก
(อ่านรายละเอียดเพิ่ม : ชัดเจน! ‘บิ๊กตู่’ไม่ปิดโอกาสนายกฯคนนอก ลั่นจากนี้ไปไม่มีปฏิวัติ)
ลั่นใครอยากฆ่าก็ลอง-ไม่ทำผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ในระหว่างร่วมงานเลี้ยงปีใหม่กับสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวตอนหนึ่งว่า ไม่มีอะไรให้สื่อมวลชนนอกจากคำอวยพรจากใจของตน วันหน้าถึงไม่ได้เป็นนายกฯ ก็ยังต้องอยู่กับท่านอยู่ดี เพราะนี่เป็นดินแดนประเทศไทย จะมาบอกว่าไม่เป็นนายกฯแล้วอยู่ไม่ได้ กฎหมายมันว่าอย่างไร ตนผิดกฎหมายตรงไหน ใครจะมาฆ่าฟันตรงไหนก็ลองมาก็แล้วกัน ไม่ได้ท้าทาย พูดให้ฟังเฉยๆเพราะท่านเอาคำพูดเหล่านี้มาไล่ล่าตน มันถูกต้องหรือไม่ มาข่มขู่หรือไม่ อย่าไปขยายความให้คนเหล่านี้ อย่าไปสนับสนุนคนที่ทำลายศักดิ์ศรีประเทศไทย
“วันนี้ปีจอ เป็นปีหมา เพราะนั้นเราต้องมีชีวิตอยู่ในปีนี้ ด้วยความสงบเงียบเป็นหมาที่ไม่ดุ หมาที่ใจดี หมาคือสุนัขคือผู้เล็บอันงาม และถือเป็นสัตว์ที่ซื่อสัตย์กับมนุษย์ที่สุด ดังนั้นใครจะมาว่าตนดวงตกดวงแตกมันอยู่ที่การกระทำของเราเอง ถ้าดวงไม่ดีแต่ใจเราดีเสียอย่างมันต้องฟันฝ่าไปได้ อุปสรรคคือกำลังใจบทเรียน ผมคิดอย่างนี้ถึงอยู่มาได้ถึงทุกวันนี้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
สำนักข่าววิหคนิวส์