ข่าวประจำวัน » #บิ๊กตู่ฉะพวกบิดเบือนไร้คุณธรรมปัญหาการเมืองเรื่องธรรมดาแต่อย่าบานปลาย

#บิ๊กตู่ฉะพวกบิดเบือนไร้คุณธรรมปัญหาการเมืองเรื่องธรรมดาแต่อย่าบานปลาย

25 December 2017
367   0

“ประยุทธ์” เป็นสักขีพยานมอบหนังสืออนุญาตให้ทำประโยชน์ที่ดินทำกิน ซัดพวกบิดเบือนไร้คุณธรรม ย้ำให้ รบ.ใช้กลไก ปชต.แต่ต้องมีธรรมาภิบาล ทั่วถึง เป็นธรรม บอกปัญหาการเมืองเรื่องธรรมดา แต่อย่าให้บานปลาย จะให้สถานการณ์ขึ้นกว่านี้ไม่ได้แล้ว ชี้เดินหน้าชาติ ปชช.ต้องเอา ขรก.ไปด้วย

Mgronline-วันนี้ (25 ธ.ค.) เวลา 11.20 น. พล.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. พร้อมคณะเดินทางมายังอาคารศรีวชิรโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จ.พิษณุโลก โดยมีนายภัคพงษ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ให้การต้อนรับและกล่าวรายงานถึงทิศทางการพัฒนาพื้นที่ภาคเหนือ โดยนายกฯ เป็นสักขีพยานมอบหนังสืออนุญาตให้ทำประโยชน์ที่ดินทำกิน 14 จังหวัด 21 พื้นที่ โดยมอบให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดและรองผู้ว่าราชจังหวัด และกล่าวกับประชาชนที่มาให้การต้อนรับกว่า 1 พันคนว่า วันนี้ได้รับฟังปัญหาประชาชนซึ่งตรงกับแนวทางรัฐบาลที่จะพัฒนายกระดับอาชีพรายได้ให้กับประชาชนให้ดียิ่งขึ้น ต้องยอมรับว่าประเทศชาติมีปัญหาเรื่องความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย การกระจายได้ การตลาด ปัญหาระบบการค้าขาย เพราะเรามีการค้าขายเสรี ซึ่งภาคประชาชนต้องเร่งการพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพสัดส่วนในตลาดให้มากขึ้น ต้องร่วมมือกัน ทำข้างเดียวไม่ได้ เราต้องอยู่ภายใต้ศาสตร์พระราชา ที่ใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มีเหตุมีผล มีความพอประมาณ มีภูมิคุ้มกันที่ดี ภายใต้หลักความรู้และคุณธรรม ซึ่งคุณธรรมเป็นหลักที่สำคัญ ที่ทุกคนต้องรู้อะไรดีอะไรชั่ว อะไรไม่ดีอย่าไปทำ การพูดจาให้ร้ายบิดเบือน ถือว่าไม่มีคุณธรรมเช่นกัน การที่จะให้รัฐบาลใช้กลไกประชาธิปไตยก็ใช่ แต่การเป็นประชาธิปไตยต้องมีธรรมภิบาล คำนึงถึงความทั่วถึง ความเป็นธรรมและความเท่าเทียม ไม่เป็นภาระงบฯประมาณ

นายกฯ กล่าวว่า ผลผลิตโดยรวมภาคเหนือในเรื่องการค้า การเกษตร การศึกษา ไม่ใช่ตัวเลขที่ราชการทำขึ้นมาได้ แต่เป็นสิ่่งที่ต้องตรวจสอบจากระบบภาษี การจดทะเบียนบริษัท ต้องเป็นตัวเลขที่ทันสมัย สามารถนำมาบริหารประเทศได้ ในเรื่องรายได้ต่อครัวเรือน รัฐบาลทำมา 3 ปีแล้ว ทั้งการแก้กฎหมาย กฎระเบียบ แต่ยังไม่ทั่วถึง เพราะมีปัญหาความไม่เท่าเทียมของโอกาส สินทรัพย์ ที่ดิน แหล่งน้ำ อุทกภัยและฝนแล้ง เพราะเราทำการเกษตร ซึ่งเราเลิกไม่ได้ แต่เราต้องทำเป็นเกษตรแปลงใหญ่

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ตนเข้ามาทำให้ทุกอย่างเข้าสู่ระบบ ไม่ได้เข้ามาทำให้ทุกคนลำบากหมด แต่ทำให้ถูกต้อง อย่างการบุกรุกป่าเสื่อมโทรมทำไม่ได้แล้ว สิ่งที่ต้องรับทราบปัญหาเศรษฐกิจไม่ใช่เพราะใครมาเป็นรัฐบาล ตนไม่ได้กล่าวอ้างว่าใครดี ใครเก่ง แต่เป็นเรื่องที่ประชาชนต้องรับรู้ เรียนรู้ด้วยตัวเอง เพราะเศรษฐกิจเราแย่มาตั้งแต่ปี 56 อย่างเรื่องการเกษตร ชุมชนต้องผลิตเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพได้ด้วยตัวเอง ทั้งนี้ตนสั่งให้ไปดูเรื่องการผลิตสินค้าต่างๆ ที่มีการวิจัยพัฒนาออกมาให้มีการจดลิขสิทธิ์ ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้ใช้ในราคาย่อมเยา แต่ถ้าปล่อยไปสู่ระบบการค้าเสรี เราจะควบคุมราคาไม่ได้ การที่เราผลิตของไปขายและถูกกดราคา เพราะเขาไปลงทุนในประเทศที่ได้รับสิทธิประโยนช์ภาษีศูนย์เปอร์เซ็นต์ เรื่องนี้ตนไม่ปกปิดกัน ตนพูดความจริง ข้อเท็จจริง ไม่ว่าจะเป็นข้าวหรือยางพารา ต้องซื้อขายตามระบบ เพราะบางอย่างเราห้ามไม่ได้ เนื่องจากเป็นกติกาโลก จึงเป็นหน้าที่ราชการ ท้องถิ่นต้องร่วมมือกัน

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้เราต้องเตรียมพร้อม รัฐบาลเตรียมมา 3 ปีแล้ว ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี อนาคตที่ดี นี่คือยุทธศาสตร์ชาติ การเมือง ประชาธิปไตยก็ว่ากันไป แต่ต้องมีการทำงานตามยุทธศาสตร์ชาติว่าจะดูแลประชาชนอย่างไรให้ทั่วถึง จะทำถนนหนทางกันอย่างไร ไม่ใช่ทำช่วงหนึ่งแล้วเก็บไว้ก่อน แล้วค่อยไปทำอีกช่วง มันไม่ใช่ รัฐบาลนี้ต้องทำทั้งเส้น เพราะถ้าไม่ทำเส้นเลือดใหญ่เส้นเล็กๆมันก็ไม่เกิด ก็เหมือนกับคนร่างกายไม่แข็งแรง ซึ่งประชาธิปไตยมันต้องเป็นแบบนี้ มีธรรมาภิบาลทั้วถึงและเป็นธรรม กระจายสู่ชนบท เพิ่มมูลค่าให้ทั่วถึงให้ได้

“ปัญหาที่เกี่ยวกับการเมืองก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่อย่าให้มันบานปลายมากไปกว่านี้เลย ผมว่าพอแล้วละ ผมก็ดูแลเท่าที่จะสามารถทำได้ จะให้สถานการณ์มันขึ้นมากไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว พูดง่ายๆ มันก็เป็นเหตุผลและความจำเป็น” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อยากให้ทุกคนร่วมมือกันทำร่วมกับรัฐบาลนี้แหละไม่ต้องรัฐบาลหน้า ทำไปก่อน ถ้าดีเขาก็ทำต่อเอง หรือถ้าเขาจะทำได้ดีกว่าตนก็ไม่ว่าเขา ขอให้ทำดีกว่านี้ก็แล้วกัน เพราะตนทำท่ามกลางปัญหาที่กองอยู่จำนวนมาก ตนแกะปัญหาที่มีอยู่ ทำได้เท่านี้ ต่อไปก็ต้องมารับไป ทำต่อไปอำนาจอยู่ที่ท่านจะเลือกใคร ตนพูดด้วยใจของตนไม่ได้เสริมแต่ง ไม่ได้พูดให้ท่านรักตน ตนรู้ว่าในห้องนี้ไม่ค่อยรักตนหรอก ใช่เปล่า ไหนใครรักยกมือก่อน

ทั้งนี้ มีประชาชนยกมือ นายกฯ จึงกล่าวว่าน้อยจริงๆ พร้อมหัวเราะและกล่าวต่อว่า เรื่องของท่าน ตนไปอ้อนอะไรกับท่านไม่ได้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าขอให้พวกท่านร่วมมือกับเราหน่อยเท่านั้น ตนเห็นใจเจ้าหน้าที่ ถ้าเห็นว่าเจ้าหน้าที่คนไหนไม่ดีก็บอกว่า ที่ไม่ดีเพราะอะไร ทำไมถึงทำไม่ได้ มีความเดือดร้อนอะไรถ้าร้องมาแล้วทำไม่ได้ก็ร้องมาที่ตน มันถึงทำเนียบฯอยู่แล้ว ซึ่งทั้งหมดต้องใช้ประชารัฐ วันนี้เราต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ เปลี่ยนความเชื่อใหม่ให้ได้ถ้าไม่เปลี่ยนก็ไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ตนพูดเลย ไม่มีโอกาสอีกแล้ว ตนก็ทำสุดชีวิตให้พวกท่าน

นายกฯ กล่าวว่า ใกล้ปีใหม่แล้วขออวยพรล่วงหน้าไปอีก 10 ปี 15 ปี 20 ปี เพราะถ้าอวยพรปีเดียวก็ได้ปีเดียว แล้วปีหน้าตนจะได้อยู่รึเปล่ายังไม่รู้เลย ก็ไม่เป็นไรตนขออวยพรให้ท่าน ปัญหาที่เผชิญมาตลอดชีวิตหมดสิ้นไป ไม่ว่าจะเป็นความเป็นอยู่หรือความไม่ยุติธรรม หรือความไม่เป็นธรรม ก็ขอให้ชีวิตต่อไปจากนี้มีความสุข ขอให้ทุกคนร่วมมือกับตนในเวลานี้ จากนั้นนายกฯ ถามประชาชน ไหนใครจะช่วยตนยกมือ สัญญาแล้วนะ สัญญาต้องเป็นสัญญา ไม่ใช่สัญญาสายัณห์ เราจะทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าด้วยกลไกประชารัฐ ประชาชนคือเจ้าของทุกอย่าง แต่ต้องเอาข้าราชการไปด้วย ขอบคุณ ขอโทษถ้าพูดแรงไป

สำนักข่าววิหคนิวส์