ข่าวประจำวัน » #ขวางรีเซตพรรคการเมือง พท.-ปชป.ค้านแหลก/ผวาสะเทือนโรดแมป

#ขวางรีเซตพรรคการเมือง พท.-ปชป.ค้านแหลก/ผวาสะเทือนโรดแมป

17 December 2017
589   0

Naewna นักการเมืองทั้งจาก“เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์”ดาหน้าค้านแหลก แนวคิด“รีเซต”พรรคการเมือง ผวาสะเทือนโรดแมปเลือกตั้งติดหล่มโรคเลื่อน ขณะที่“ไพบูลย์ นิติตะวัน”บอกมีแนวคิดเดียวกับ“กำนันสุเทพ” หวังให้เกิดความเป็นธรรมทุกฝ่าย ปัด“เตี๊ยม”กัน

บรรดานักการเมือง ทั้งจากพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย ต่างโดดออกมาขวางแนวคิด “รีเซต” สมาชิกพรรคการเมือง ที่เสนอออกมาโดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานเครือข่ายประชาชนปฏิรูป โดยส่วนใหญ่มองว่าจะกระทบต่อ “โรดแมป” การเลือกตั้ง

รีเซ็ตสมาชิกพรรคให้เป็นธรรม

ความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.60 นายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานเครือข่ายประชาชนปฏิรูป กล่าวยืนยันในข้อเสนอในการรีเซตสมาชิกพรรคการเมือง ว่า หากไม่รีเซตสมาชิกพรรคการเมือง ก็จะทำให้พรรคการเมืองใหญ่ได้เปรียบ ที่ตนออกมาเรียกร้องข้อเสนอนี้ เพราะไม่อยากให้เกิดความได้เปรียบหรือเสียเปรียบ โดยเฉพาะกับพรรคการเมืองที่จะเกิดขึ้นมาใหม่ เพราะการเมืองใหม่ใหม่ไม่มีฐานสมาชิก เหมือนพรรคการเมืองใหญ่ หรือพรรคการเมืองเดิม ที่มีเครือข่ายสมาชิกของตนเองอยู่แล้ว ดังนั้นที่ตนเสนอเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายเท่านั้น

ชี้แก้กม.ต้องไม่กระทบโรดแมป

นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญคือสังคมควรได้ถกเถียงกันเรื่องสมาชิกพรรค และการเก็บค่าสมาชิกพรรคนั้น มีความเหลื่อมล้ำกันจริงหรือไม่ ถ้าเกิดว่าเราคุยกันแล้วเห็นว่ามีความเหลื่อมล้ำกันเกิดขึ้นจริง ก็ค่อยมาถึงขั้นตอนที่ 2 คือ การแก้กฎหมายว่าเราจะแก้กฎหมายหรือไม่ ถ้าเราเห็นตรงกันก็ค่อยมาพูดว่า จะกฎหมายโดยขั้นตอนใด คือ ให้เป็นหน้าที่ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) หรือหน้าที่ของรัฐบาล

“ขอยืนยันว่าหากจะต้องมีการแก้กฎหมาย จะต้องไม่กระทบกับโรดแมปการเลือกตั้งในปี 2561” นายไพบูลย์ กล่าว

แนวคิดตรง“สุเทพ”ปัดเตี๊ยมกัน

เมื่อถามว่า ข้อเสนอคล้ายๆกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. ทำให้สังคมมองว่าเป็นการออกมารับลูก หรือเตี๊ยมกัน นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตนขอถามกลับว่าแล้วการที่นักการเมืองออกมาพูดพร้อมกันว่าให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ช่วยปลดล็อกพรรคการเมืองนั้น พรรคการเมืองหรือนักการเมืองต่างๆมีการเตี๊ยมกัน หรือรับลูกกันหรือไม่

“ยืนยันว่าผมกับนายสุเทพแค่มีแนวทางและความคิดเห็นไปในทางเดียวกันเท่านั้น เป็นประเด็นที่ต้องการความเป็นธรรมให้กับประชาชน ไม่ได้มีการเตี๊ยมกันแต่อย่างใด” นายไพบูลย์ กล่าว

เพื่อไทยตั้ง 3 ข้อสังเกต

ด้าน นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวว่า ข้อเสนอให้รีเซตสมาชิกพรรคการเมือง ซึ่งกระทบสิทธิประชาชนตามรัฐธรรมนูญ และสุ่มเสี่ยงที่จะกระทบโรดแมปการเลือกตั้ง ตนมีข้อสังเกตอยู่ 3 ประการ คือ 1.ประชาชนที่เป็นสมาชิกพรรคการเมืองมาเป็นเวลาหลายปี เคยใช้สิทธิเลือกตั้งหลายครั้ง เขาทำผิดอะไรถึงจะไปตัดสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ

2.ช่วง 3 ปีเศษที่ผ่านมา ฝ่ายบริหารของรัฐบาลได้ประกาศครั้งแล้วครั้งเล่าให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎหมาย แต่การที่รัฐบาลไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่รัฐบาลเป็นผู้ออกมาเสียเอง รัฐบาลจะตอบประชาชนและชาวโลกอย่างไร

กรธ.-สนช.บ้าจี้ตามถือว่าบกพร่อง

3.กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ต้องรับผิดชอบป้องกัน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองอย่างเต็มกำลัง เพราะช่วงการพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ดังกล่าว กรธ.ได้ทำหน้าที่ชี้แจงแสดงเหตุผลนานัปการว่า พ.ร.ป.นี้เหมาะสม และสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ ที่สำคัญ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองนี้ยังไม่ได้ใช้เลย เนื่องจากมีคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ตามมาตรา 44 กำกับอยู่ หากจะแก้ไขตามแรงกดดันดังกล่าว แสดงว่า กรธ.และ สนช.บกพร่อง และไม่รอบคอบใช่หรือไม่ ซึ่ง กรธ.และ สนช.จะรับผิดชอบต่อประชาชนอย่างไร โดยเฉพาะสมาชิกพรรคการเมืองที่ไม่ได้ทำอะไรผิด

นพดลขวาง!กลัวโรดแมปเลื่อน

ส่วน นายนพดล ปัทมะ อดีตรมว.ต่างประเทศ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงข้อเสนอให้แก้กฎหมายรีเซตสมาชิกพรรคการเมืองเดิม ให้มาสมัครเป็นสมาชิกและเสียค่าสมัครใหม่ ว่า ตนเคารพข้อเสนอ แต่ยังมองไม่เห็นประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ และคนที่ร่างกฎหมายคงคิดดีแล้วในประเด็นนี้ คนที่เป็นสมาชิกพรรคการเมืองเก่าก็เป็นต่อไป จะไปกระทบสิทธิเขาทำไม ใครจะตั้งพรรคการเมืองใหม่ ก็ต้องไปหาสมาชิกใหม่มาสนับสนุนตามที่กำหนด ไม่มีปัญหาเรื่องความได้เปรียบระหว่างพรรคเก่าและพรรคใหม่ คนที่ฟังข้อเสนอรีเซตสมาชิกพรรครู้เลยว่าคนเหล่านี้ต้องการอะไร ตนเห็นว่าถ้าโรดแมปเลื่อนไปอีก จะมีผลเสียมากกว่าผลดี

โชว์รักชาติไล่ทุกมุ้งหยุดหมกมุ่น

“เรื่องรีเซตสมาชิกพรรคการเมืองไม่ใช่ปัญหา และไม่เป็นสาระของประเทศ เอาเวลาไปใส่ใจกับปัญหาของประเทศที่เร่งด่วน เช่น ปัญหาปากท้อง สินค้าเกษตรราคาตก ไทยติดลำดับ 1 คนตายจากอุบัติเหตุสูงสุด ปัญหาคุณภาพการศึกษา และอื่นๆดีกว่า ผมว่าคนที่เสนอแนวคิดอาจไม่แปลก แต่ถ้ามีคนไปทำตามคงแปลกและเตรียมตอบคำถามสังคมให้ได้” นายนพดล กล่าว

ปชป.หวั่นเกิดโรคแทรกซ้อน

ทางด้าน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงข้อเสนอดังกล่าว รวมถึงข้อเสนอให้สมัคร ส.ส.อิสระ ไม่ต้องสังกัดพรรคการเมืองของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรองนายกรัฐมนตรี ว่า 1.อาจส่งผลกระทบต่อโรดแมปของประเทศ เพราะข้อเสนอให้แก้ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาพอสมควร ขณะที่ข้อเสนอให้สมัคร ส.ส.อิสระได้ ไม่ต้องสังกัดพรรคก็ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องใช้เวลามากเช่นกัน เนื่องจากการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ ต้องผ่านการทำประชามติ ถ้าทำตามข้อเสนอต่างๆเหล่านี้ ย่อมส่งผลกระทบต่อโรดแมปตามรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน

2.สร้างความไม่เชื่อมั่นต่อคำมั่นสัญญาของผู้นำรัฐบาลไทย ทั้งในและต่างประเทศ โอกาสที่จะเลือกตั้งตามที่ผู้นำรัฐบาลประกาศไว้ย่อมไม่เกิดขึ้น และ 3.ก่อให้เกิดความไม่แน่นอนทางการเมือง เพราะถ้าทำตามข้อเสนอต่างๆเหล่านี้อาจก่อให้เกิดโรคแทรกซ้อน และความวุ่นวายต่างๆตามมา อันส่งผลกระทบต่อทิศทางการเมืองไทยโดยรวมที่กำลังเดินหน้าไป

“ยะใส”จับตาท่าทีคสช.

ขณะที่ นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต และ ผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย กล่าวว่า ข้อเสนอเหล่านี้มีความเหมาะสมในเรื่องนี้หรือไม่ อย่างไร เรื่องนี้มีความละเอียดอ่อนสูงต้องจับตาไปที่การตัดสินใจของ คสช. , กรธ.และ สนช.ว่าจะดำเนินการอย่างไร เข้าใจว่าในส่วน คสช.ที่มีอำนาจสูงสุดคงดูท่าทีจากสาธารณะสักระยะหนึ่งถึงจะตัดสินใจ เพราะประเด็นนี้ต้องยอมรับว่าเป็นประเด็นที่อาจจะส่งผลกระทบต่อโรดแมปเลือกตั้ง ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม

เชื่อวุ่นวายแน่-แนะหาทางป้องกัน

นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ประเด็นความเหลื่อมล้ำระหว่างพรรคการเมืองเดิมกับพรรคการเมืองที่จะตั้งกันใหม่นั้น ก็เป็นประเด็นที่น่าคิด เพราะเมื่อปลดล็อก พรรคการเมืองเดิมจะดำเนินการตาม พ.ร.ป.ได้เลย แต่พรรคใหม่ต้องรอนายทะเบียนพรรคการเมืองอนุมัติการจดแจ้งตั้งพรรคอย่างเป็นทางการก่อน ถึงจะเริ่มดำเนินการตามกฎหมายพรรคการเมืองได้ เรื่องนี้นายทะเบียนพรรคการเมือง กกต. สนช.และ กรธ. น่าจะหารือร่วมกันเพื่อแสวงหามาตรการที่จะผ่อนปรนกับพรรคการเมืองที่จะตั้งใหม่ และดูข้อยกเว้นที่จำเป็น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมความเท่าเทียมกับทุกพรรคการเมืองได้อย่างแท้จริง

“แต่อย่าลืมว่าตราบใดที่ คสช.ยังไม่ปลดล็อก และไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่าจะปลดล็อกเมื่อไร ปัญหาเหล่านี้จะยังไม่เกิด แต่เตรียมการไว้ล่วงหน้าก็จะเป็นประโยชน์ เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในภายหลัง” นายสุริยะใส กล่าว

สำนักข่าววิหคนิวส์