#สถานการณ์น้ำท่วมพัทลุง-นครศรียังอ่วมหนัก ต้องเร่งอพยพคนออกจากพื้นที่ วอนขอความช่วยเหลือ

สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดพัทลุง ยังไม่คลี่คลาย ชาวบ้านใน 5 อำเภอริมทะเลสาบสงขลา ต้องอพยพออกจากบ้านมากางเต็นท์นอนบนถนนนานเกือบ 1 สัปดาห์ วอนขอความช่วยเหลือเรื่องน้ำดื่ม และเต็นท์เพิ่ม จ.นครศรีฯ ยังอ่วมน้ำท่วม 12 อำเภอ กรมชลฯ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 46 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 18 เครื่อง เร่งระบายลงทะเล

บรรยากาศที่จังหวัดพัทลุงว่า เช้าวันนี้ (3 ธ.ค.) ยังมีฝนตกหนักเป็นระยะๆ ทำให้น้ำท่วมที่ขังอยู่แล้วเพิ่มสูงขึ้นอีก โดยเฉพาะในพื้นที่ 5 อำเภอริมทะเลสาบสงขลา ได้แก่ อำเภอควนขนุน อำเภอเมือง อำเภอเขาชัยสน อำเภอบางแก้ว และ อำเภอปากพะยูน ชาวบ้านที่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวต้องอพยพมาอยู่บนถนนสายริมทะเลสาบตั้งแต่อำเภอควนขนุนไปจนถึงอำเภอปากพะยูน เต็มไปด้วยเต็นท์ผู้อพยพใช้เป็นที่อยู่อาศัยชั่วคราว บางเต็นท์อยู่กันอย่างแอออัด 2-3 ครอบครัว มีตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงผู้ใหญ่ โดยเฉพาะที่หมู่บ้านปากวะ หมู่ที่ 10 ตำบลลำปำ อำเภอเมือง และหมู่ที่ 8 ตำบลหารโพธิ์ อำเภอเขาชัยสน บ้านเรือนถูกน้ำท่วมสูง 1 เมตร

ขณะที่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมหมู่ที่ 10 ตำบลลำปำ รายหนึ่ง กล่าวว่าชาวบ้านที่อพยพขึ้นมาอาศัยริมถนนดังกล่าวนานเกือบ 5 วันแล้ว กำลังได้รับความเดือดร้อนเรื่องน้ำดื่มเริ่มขาดแคลน ส่วนสิ่งของช่วยเหลือ ถุงยังชีพนั้นยังไม่มีเข้ามาแจกจ่ายแต่อย่างใด ขณะนี้ขอเพียงน้ำดื่ม และเต็นท์เพิ่มเต็ม นอกจากนี้น้ำที่ท่วมขังเริ่มเน่าเสียเมื่อเดินย่ำน้ำเป็นเวลานานจะเกิดอาการคันทันที

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 434 พัทลุง ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง ในการอพยพชาวบ้านที่ประสพอุทกภัย รวมทั้งขนย้ายสิ่งของไว้ที่สูงพร้อมแจกจ่ายน้ำดื่ม

สำหรับผู้สูญหาย 1 คน เมื่อ 2 วันก่อนขณะออกทะเลในพื้นที่ตำบลทะเลน้อย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพัทลุง ออกค้นหาจนพบว่าเสียชีวิตแล้วบริเวณริมทะเล ชื่อ นายประพันธ์ กล้าแข็ง ล่าสุด มีผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมแล้ว 2 ศพ

ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน รายงาน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ วัน ที่ 2 ธันวาคม 2560 ว่า จากอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณภาคใต้ตอนล่าง ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย. 60 เป็นต้นมา ปัจจุบันปริมาณฝนได้ลดน้อยลงแล้ว แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบางแห่ง เช่น จังหวัดนครศรีธรรมราช ยังคงมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 12 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.บางขัน อ.นบพิตำ อ.หัวไทร อ.ฉวาง อ.สิชล อ.ท่าศาลา อ.เชียรใหญ่ อ.พระพรหม อ.ทุ่งสง อ.ปากพนัง และ อ.ชะอวด

กรมชลประทาน ได้เดินเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำสายหลักอย่างต่อเนื่อง ส่วนระดับน้ำในคลองท่าดีที่สถานีวัดน้ำ X.200 อ.ลานสกา ซึ่งเป็นต้นน้ำคลองท่าดี ระดับน้ำยังต่ำกว่าตลิ่ง 1.86 เมตร ส่วนพื้นที่ตอนล่างบริเวณสถานีวัดน้ำ X.203 อ.เมืองนครศรีธรรมราช ระดับน้ำคลองท่าดีต่ำกว่าตลิ่ง 40 เซนติเมตร แนวโน้มลดลง กรมชลประทาน ได้เปิดประตูระบายน้ำชะอวดแพรกเมือง อ.หัวไทร ทั้ง 5 บาน ซึ่งเป็นพื้นที่บริเวณปลายน้ำ พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จำนวน 46 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำอีก 18 เครื่อง เพื่อสูบและระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด สถานการณ์ในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 24 – 48 ชั่วโมงนี้