
ตรงประเด็น – พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า การควบคุมตัวครั้งนี้เป็นการจับกุมตามหมายจับ ส่วนกรณีที่มีข่าวถูกจับที่ประเทศตุรกีเป็นข้อเท็จจริงนอกประเทศยืนยันไม่ได้ ส่วนการทำงานระหว่างประเทศเป็นเรื่องของอัยการเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ยืนยันว่าเป็นการจับกุมตามหมาย เมื่อสืบสวนว่าเขาจะเดินทางเข้าประเทศก็ได้เชิญตัวมา กระบวนการหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้สรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการศาลทหาร ซึ่งอัยการศาลทหารได้ฟ้องไปแล้ว โดยนางวรรณา เป็นคนที่ 3 ที่ถูกจับกุมได้ ต่อจากนายอาเดม คาราดัก และ นายเมียไรลี ยูซูฟู ผู้ต้องหาในคดีนี้มีทั้งหมด 17 คน รวมจับได้แล้ว 3 เหลือ 14 คน มั่นใจในพยานหลัก ส่วนการดำเนินการจับกุมคนร้ายที่เหลือ จะได้เร่งรัดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ถ้าต่างประเทศเทศใช้ช่องทางอินเตอร์โพลในการติดตามตัวคนร้าย
สำหรับนางวรรณา เป็น 1 ใน 17 ผู้ต้องหาที่ถูกศาลออกหมายจับ และได้เดินทางไปยังประเทศตุรกีก่อเกิดเหตุระเบิด โดยนางวรรณา ร่วมกับสามีคือนายเอ็มระห์ ดาวูโตกลู ชาวตุรกี ในการเปิดห้องพัก เช่าบ้านให้กลุ่มผู้ต้องหาย่านมีนบุรี
คดีนี้เกิดในวันเกิดเหตุวันที่ 17 ส.ค.58 หลักฐานจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพชายต้องสงสัยได้ 1 ราย คล้ายแขก สวมเสื้อยืดสีเหลือง กางเกงขาสั้นสีฟ้า สวมผ้ารัดข้อมือสองข้าง สะพายกระเป๋านั่งรถ 3 ล้อเครื่อง มาที่หน้าโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอรวัณ ก่อนที่จะเดินเข้าไปที่ม้านั่งหินภายในรั้วศาลพระพหรม แล้ววางกระเป๋าก่อนเดินหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว แล้วเกิดระเบิดดังขึ้นสนั่นเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบเก็บรวมรวบพยานหลักฐาน ต่อมาวันที่ 18 ส.ค.58 พบระเบิดอีกลูกที่ที่เรือสาธร แต่โชคดีระเบิดตกน้ำบริเวณโป๊ะเรือสาธรทำให้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ เข้าปิดล้อมตรวจค้นที่พูลอนันต์ อพาร์ทเม้น ซ.เชื่อมสัมพันธ์ ย่านหนองจาก สามารถควบคุมตัว นายอาเด็ม คาราดัค พร้อมด้วยอุปกรณ์ประกอบระเบิดและเป็นชนิดเยวกันกับระเบิดที่หน้าพระพรหม และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์พบเป็นคนเดียวกันกับคนร้ายที่ลอบวางระเบิด
สำนักข่าววิหคนิวส์






