17 พฤศจิกายน 2560 แหล่งข่าววงในราชวงศ์ซาอุดิอาระเบียเปิดเผยว่า กษัตริย์ซัลมาน จะสละราชบัลลังก์ในสัปดาห์หน้า และสถาปนาเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน พระโอรสและองค์มกุฎราชกุมาร พระชนมายุ 32 ชันษา ขึ้นเป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์
กรุงเทพธุรกิจ – แหล่งข่าวระดับสูงที่ใกล้ชิดพระราชวงศ์ เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้า ถ้าไม่มีอะไรผิดแผน กษัตริย์ซัลมาน บิน อับดุล-อาซิส อัล ซาอุด จะทรงแต่งตั้งพระโอรสขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งซาอุดิอาระเบีย ส่วนพระองค์จะยังทรงดำรงตำแหน่ง “ผู้พิทักษ์สองมหามัสยิดอันศักดิ์สิทธิ์”ต่อไป
ข่าวนี้ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่บ่งชี้ถึงขั้นตอนสุดท้ายของการเถลิงอำนาจของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด ที่เริ่มจากทรงมีพระบัญชาให้จับกุมรัฐมนตรีและเจ้าชายกว่า 40 องค์ ในข้อหาคอรัปชั่น เมื่อต้นเดือนนี้ และนับตั้งแต่ดำรงตำแหน่งองค์มกุฎราชกุมาร เจ้าชายทรงมุ่งความสนพระทัยไปที่อิหร่าน ศัตรูในตะวันออกกลางอันยาวนานของราชอาณาจักร ท่ามกลางความวิตกว่า อาจจะมีการใช้ปฏิบัติการทางทหารเกิดขึ้น และพระองค์อาจทรงขอความช่วยเหลือจากกองทัพอิสราเอล ในการบดขยี้ฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในเลบานอนที่ได้รับการหนุนหลังจากอิหร่าน
แหล่งข่าวระบุว่า เจ้าชายทรงปักใจแล้วว่าจะต้องโจมตีอิหร่านกับฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งตรงข้ามกับคำแนะนำของสมาชิกอาวุโสในพระราชวงศ์ จึงไม่แปลกใจเลยว่า เหตุใดคูเวตถึงเรียกพระองค์ว่า “กระทิงดุ” เจ้าชายทรงมีพระประสงค์ที่จะเปิดฉากโจมตีเลบานอนก่อน แต่ไม่สามารถลงมือเพียงลำพังได้โดยไม่มีอิสราเอล จึงทรงรับปากว่าจะให้เงินช่วยเหลืออิสราเอล 1 พันล้านดอลลาร์ ถ้ายอมช่วย นอกจากนี้ ยังมีแผนสองคือการสู้กับฮิซบอลเลาะห์ในซีเรีย
เมื่อสัปดาห์ก่อน ทรงเรียกพบนายกรัฐมนตรีซาอัด อัล-ฮารีรี ของเลบานอน และเชื่อว่า เขาถูกบังคับให้ประกาศลาออกผ่านทางสถานีโทรทัศน์ซาอุดิอาระเบีย แต่เขาแถลงในตอนนั้นว่า กลัวจะถูกลอบสังหารและกล่าวหาอิหร่านว่าร่วมมือกับฮิซบอลเลาะห์
ความตึงเครียดระหว่างซาอุดิอาระเบียกับอิหร่านรุนแรงมากขึ้น หลังซาอุดิอาระเบีย กล่าวหาอิหร่านว่า “ก่อสงคราม” ฐานมีส่วนเกี่ยวข้องเหตุการณ์เมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่มีขีปนาวุธสกั๊ดถูกยิงจากเยเมน พุ่งตรงสู่กรุงริยาร์ด แต่ถูกสกัดได้เสียก่อน
สำนักข่าววิหคนิวส์