ข่าวประจำวัน » #”ผบ.กองทัพพม่าแจงโรฮิงญากลับประเทศก็ได้ต่อเมื่อชาวพม่ายอมรับ

#”ผบ.กองทัพพม่าแจงโรฮิงญากลับประเทศก็ได้ต่อเมื่อชาวพม่ายอมรับ

17 November 2017
715   0


เอเอฟพี – ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาไม่สามารถกลับรัฐยะไข่ได้จนกว่า “พลเมืองพม่าที่แท้จริง” พร้อมที่จะยอมรับพวกเขา ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของพม่ากล่าววันนี้ ความคิดเห็นที่ก่อให้เกิดความสงสัยเกี่ยวกับคำมั่นของรัฐบาลที่จะเริ่มกระบวนการส่งชนกลุ่มน้อยมุสลิมกลับประเทศชาวโรฮิงญามากกว่า 600,000 คน กำลังอ่อนล้าอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศหลังหลบหนีการปราบปรามทางทหารของพม่าที่เริ่มขึ้นในปลายเดือนส.ค. 

สหประชาชาติระบุว่า ปฏิบัติการเผาทำลายล้างที่ทำให้หมู่บ้านหลายร้อยแห่งเหลือแต่เถ้าถ่านในพื้นที่ตอนเหนือของรัฐยะไข่ เทียบได้กับการกวาดล้างชาติพันธุ์ชนกลุ่มน้อยไร้สัญชาติกลุ่มนี้ แต่พล.อ.อาวุโส มิน ออง หล่าย ยังคงปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด และยืนยันว่ากองกำลังทหารมุ่งเป้าแต่เพียงผู้ก่อการร้ายโรฮิงญา เช่นเดียวกับที่ระบุบนหน้าเพจเฟซบุ๊กตลอดช่วงที่เกิดวิกฤติ ซึ่งแพร่กระจายความรู้สึกต่อต้านโรฮิงญาในหมู่ประชาชนชาวพม่า และตราหน้าชาวมุสลิมกลุ่มนี้ว่า เป็นผู้บุกรุกจากบังกลาเทศ แม้หลายคนจะอาศัยอยู่ในรัฐยะไข่มาหลายรุ่นแล้วก็ตาม


ในวันที่ (16) พล.อ.อาวุโส มิน ออง หล่าย ยังส่งสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าการส่งตัวชาวโรฮิงญากลับเป็นหนทางที่ยาวไกล โดยระบุว่า การเดินทางกลับของพวกเขาอย่างแรกคือต้องได้รับการยอมรับจากชาวพุทธยะไข่ — ที่หลายคนรังเกียจชนกลุ่มน้อยมุสลิมและถูกกล่าวหาว่าช่วยทหารเผาบ้านของชาวโรฮิงญา 

“ต้องให้ความสำคัญกับความต้องการของชาวยะไข่ในท้องถิ่นที่เป็นพลเมืองพม่าอย่างแท้จริง ทุกคนจะรู้สึกพอใจก็ต่อเมื่อชาวยะไข่ยอมรับเท่านั้น”

คำแถลงบนเฟซบุ๊ก ระบุ ผู้บัญชาการกองทัพพม่ายังกล่าวว่าพม่าจะไม่อนุญาตให้ชาวโรฮิงญาทั้งหมดที่อยู่ในบังกลาเทศกลับมา“มันเป็นไปไม่ได้ที่จะยอมรับคนทั้งหมดตามที่บังกลาเทศเสนอ”
คำแถลง ระบุ พร้อมกำกับว่าผู้ลี้ภัยเหล่านั้นเป็น “ผู้ก่อการร้าย” ที่หลบหนีไปพร้อมกับครอบครัว ความเห็นของผู้บัญชาการกองทัพพม่ามีขึ้น 1 วัน หลังพบหารือกับเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ (15) ซึ่งได้เรียกร้องให้กองทัพให้การสนับสนุนต่อความพยายามการส่งกลับผู้ลี้ภัยทั้งหมด และระบุว่ารายงานเกี่ยวกับการกระทำโหดร้ายทารุณอย่างกว้างขวางของทหารพม่า เป็นสิ่งที่น่าเชื่อถือบังกลาเทศและพม่าได้ตกลงในหลักการ ที่จะเริ่มส่งผู้ลี้ภัยกลับประเทศ แต่ยังติดขัดในเรื่องรายละเอียดความตึงเครียดระหว่างชาวยะไข่และชาวโรฮิงญาคุกรุ่นมานานหลายปี และปะทุขึ้นเป็นเหตุนองเลือดในปี 2555 ที่ผลักดันให้ชาวโรฮิงญามากกว่า 100,000 คน ต้องอาศัยอยู่ในค่ายผู้พลัดถิ่น ชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมต้องทนทุกข์อยู่นานหลายปีจากการเลือกปฏิบัติของรัฐบาลที่ปฏิเสธสิทธิการเป็นพลเมืองและจำกัดการเข้าถึงการทำงาน การดูแลสุขภาพและการศึกษา
สำนักข่าววิหคนิวส์