มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข รองโฆษกพรรคประชาธิปัติย์ ได้กล่าวถึงการปรับครม.ว่า ปรับคณะรัฐมนตรี “ประยุทธ์ห้า” เพื่อให้นายกรัฐมนตรีได้ไปต่อ ส่วนประเทศชาติและประชาชนจะไปในทิศทางใดเห็นท่าทีของพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ค่อนข้างหงุดหงิดกับคำถามการปรับคณะรัฐมนตรีจึงมีความรู้สึกไม่ค่อยจะสบายใจนัก ที่ไม่สบายใจเพราะว่าการปรับคณะรัฐมนตรีสี่ครั้งของรัฐบาลชุดนี้เป็นการปรับสลับตำแหน่งและเป็นการปรับเพื่อแก้ปัญหาภายในของรัฐบาลเองแต่ไม่ได้เป็นการแก้ไขปัญหาประเทศชาติและประชาชน ดังนั้นการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งที่ห้าในรอบเกือบจะครบสี่ปีของรัฐบาลคสช. จึงเป็นที่คาดหวังของสังคมค่อนข้างมาก
ทำไมต้องคาดหวัง ก็เพราะต้องยอมรับกันว่าการแก้ไขปัญหาที่ไม่ตรงเป้าและขาดศักยภาพที่สุดคือการแก้ไขปัญหาเกษตรราคาพืชผล ปากท้องประชาชน โดยเศรฐกิจปากท้องระดับกลางถึงล่างนั้นการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ตรงเป้านี่ต่างหากที่เป็นฐานของพีระมิดที่จะทำให้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์เดินไปข้างหน้าได้ยาก อย่าว่าแต่จะตั้งพรรคลงเลือกตั้งครั้งหน้าเลยเอาตัวให้รอดจากปีหน้าไม่ให้ลงจากตำแหน่งแบบเดียวกันกับรัฐบาลสุจินดาหรือลงจากตำแหน่งโดยมีม็อบประชาชนไล่จนเกิดมิคสัญญีก็บุญแล้ว
อย่าลืมว่า ปี 2552- 2553 พลเอกประวิตร พลเอกอนุพงษ์ พลเอกประยุทธ์ และคณะทหารรัฐบาลทหารชุดนี้ทั้งชุดนั่นแหละที่แก้ไขปัญหาทางด้านความมั่นคงทั้งหมดศักยภาพแสนยานุภาพความรู้ความสามารถมีเท่าไหนก็ให้เห็นกันแล้วในเหตุการณ์ปี 2553 โดนประชาชนล้อมที่กระทรวงย่านคลองหลอดก็พลเอกประวิตรไม่ใช่หรือที่วิ่งเกือบจะกลิ้งอยู่บนชั้นสองของกระทรวงมหาดไทยเข้าห้องนั้นออกห้องนี้ปล่อยนายกรัฐมนตรีให้โดนทุบโดนตีอยู่ข้างล่างจนเกือบตาย
อยากให้ระลึกเสมอว่า..แม้ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งแต่คุณก็มาจากประชาชนที่รวมตัวกันล้มรัฐบาลชุดก่อน หรือจะเถียง! ถ้าไม่มีประชาชนเป็นหลายล้านคนเดินอยู่บนถนนไม่ยอมกลับบ้านพวกพลเอกพลโททั้งหลายอย่างพวกคุณหรือจะกล้าหาญชาญชัยเอาปืนใหญ่รถถังออกมายึดอำนาจ..จำไว้ว่าคุณได้อำนาจมาเพราะประชาชนที่แสดงออกอยู่บนท้องถนนไม่ใช่ประชาชนที่ไปถามโพล2-3วันเอามาเข้าข้างตัวเองอยู่ร่ำไป
และจำไว้อีกด้วยว่าประชาชนชาวสวนยางที่คุณไปควบคุมตัวเขามาไม่ให้ก่อการประท้วงราคายางพารานั่นก็เป็นประชาชนที่ให้ที่ยืนคุณในทุกวันนี้เช่นกัน คุณเคยเห็นหัวเขาไหม คุณเคยฟังเสียงเขาหรือไม่ เมื่อคุณฟังแล้วรับหนังสือของเขาแล้วทั้งจากตัวเขาและจากตัวแทนเข้ามามอบให้ในรอบสามปีคุณแก้ไขปัญหาอะไรให้เขาแก้ได้ถูกจุดไหม..ถ้าคุณบอกว่าคุณทำคุณแก้แต่มันแย่แล้วแก้ไม่ได้แปลว่าคนที่จะต้องพิจารณาตัวเองคือใคร
แล้วทีนี้คุณยังจะอุ้มกันเองให้ดำรงตำแหน่งอยู่ต่อไปหรือคุณจะหาทางแก้เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ให้ที่ยืนของคุณ จำไว้นะคะว่าการบริหารประเทศชาติคือการบริหารประโยชน์ให้ประชาชน บริหารอย่างถูกหลักถูกการเพื่อให้ชีวิตและปากท้องของประชาชนดีขึ้นไม่ใช่การบริหารตำแหน่งตอบแทนคณะรัฐประหารให้แต่ละคนเอารูปไปแปะฝาบ้านเป็นเกียรติยศจะปรับจะลดตำแหน่งอะไรก็มานั่งเกรงใจคำนึงถึงเกียรติยศของเพื่อนฝูงพรรคพวกพี่น้องกันเองโดยที่ไม่คำนึงถึงประเทศชาติและประชาชน
จะครบสี่ปีแล้ว…ใครที่ยังมัวอวยกันอยู่และถ้าท่านผู้นำยังชอบ แต่จะฟังคำอวยและสนใจจะใช้เฉพาะคนที่คอยอวยอยู่ใกล้ๆบอกได้เลยว่าหนทางบรรลัยอยู่ไม่ไกล..ผู้นำมากมายที่ผ่านมาก็หายนะเพราะฟังแต่คำอวยทั้งนั้นเลยค่ะ ! อย่าหงิดหงิดเลยท่านหันกลับมานึกถึงที่มา..และเดินหน้าในสิ่งที่ประชาชนและประเทศชาติจะได้จริงๆเสียที..เพื่อนฝูงถ้าไม่มีและไม่เหลือใครก็ให้รู้กันไปว่าใครจะอยู่ข้างเรา “แก่ๆกันแล้วจะอยู่กันอีกสักแค่ไหนเชียว”
มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข
สำนักข่าววิหคนิวส์