ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #ปลัดแรงงานยัน! ต้องใช้ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มจัดซื้อเครื่องสแกนม่านตา

#ปลัดแรงงานยัน! ต้องใช้ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มจัดซื้อเครื่องสแกนม่านตา

12 November 2017
634   0

       12 พ.ย.60 ปลัดแรงงานยืนยันยังไม่ได้เริ่มจัดซื้อเครื่องสแกนม่านตาที่ใช้พิสูจน์อัตลักษณ์ต่างด้าว แต่ยืนยันว่าต้องใช้พร้อมการันตีแม่นยำกว่าตรวจลายนิ้วมือ-ใบหน้า

        แนวหน้า – นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงกรณีที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์โครงการจัดซื้อเครื่องสแกนม่านตาเพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์แรงงานต่างด้าวของกระทรวงแรงงาน ว่า ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีการจัดซื้อเครื่องดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ก็มีความคิดเห็นตรงกันว่ามีความจำเป็นที่จะต้องเสริมเครื่องสแกนม่านตา เพื่อภารกิจในการพิสูจน์อัตลักษณ์แรงงานต่างด้าวของกระทรวงแรงงาน เพราะปัจจุบันมีใช้อยู่เพียง 30 เครื่อง ใน 22 จังหวัด โดยเป็นเครื่องที่ยืมมาจากทางกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม เพื่อใช้ในการขึ้นทะเบียนแรงงานประมงเท่านั้น
        นายจรินทร์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของข้อสังเกตเรื่องราคาต่อเครื่อง ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 1 แสนบาทนั้น ก็ต้องยืนยันว่าเป็นราคามาตรฐานสำหรับเครื่องประเภทนี้ ซึ่งยังมีรายละเอียดการจัดซื้อจัดหาที่ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาการเก็บข้อมูลพิสูจน์ตัวบุคคลของแรงงานต่างด้าว ที่ คสช. ตั้งขึ้นเสียก่อน ดังนั้นยืนยันได้ว่ามีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน

         และขอยืนยันว่าจะมีการพิจารณาใช้งบประมาณให้มีประสิทธิภาพคุ้มค่ามากที่สุด เพราะหากประเมินมูลค่าการเก็บข้อมูลม่านตา ที่แม่นยำกว่าการตรวจสอบข้อมูลด้วยลายนิ้วมือ 100 เท่า หรือใบหน้า 10 เท่า ก็จะถือว่าคุ้มค่าการลงทุน ซึ่งเครื่องสแกนม่านตาของกรมเจ้าท่า ที่กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ยืมมาใช้นั้นอยู่มี 30 เครื่อง แต่ชำรุดไป 3 เครื่อง อาจจะเพียงพอเฉพาะการพิสูจน์อัตลักษณ์แรงงานประมง 7 หมื่นคน ที่ต้องแล้วเสร็จในเดือน มี.ค.2561 เพื่อเร่งแก้ปัญหา IUU Fishing หรือการทำประมงที่ผิดกฎหมาย โดยขณะนี้ดำเนินการไปแล้วกว่า 3 หมื่นราย ขณะที่กรมการจัดหางานยังมีส่วนที่ต้องรับผิดชอบแรงงานต่างด้าวทั่วประเทศอีกมากกว่า 2 ล้านคน ที่ต้องพิสูจน์อัตตลักษณ์ให้แล้วเสร็จในคราวเดียวกัน ตามนโยบายของรัฐบาลที่ระบุว่าตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.61 จะต้องไม่มีแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายในประเทศไทยอีก
   “เพราะฉะนั้นการวางระบบพิสูจน์อัตลักษณ์ของแรงงานจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก ไม่ว่าจะใช้วิธีการสแกนใบหน้า ลายนิ้วมือ หรือวิธีการอื่นๆ ซึ่งคณะกรรมการฯจะเป็นผู้พิจารณาว่าจะใช้วิธีใดการเก็บข้อมูลพิสูจน์ตัวบุคคลของแรงงานต่างด้าว” นายจรินทร์ กล่าว
         โดยสาเหตุที่มีแนวโน้มในการเลือกใช้การสแกนม่านตา ในการพิสูจน์อัตลักษณ์แรงงานต่างด้าวนั้น นอกจากเป็นระบบที่ได้รับการยอมรับใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลกแล้ว ความแม่นยำยังสูงกว่าระบบอื่นๆด้วย อีกทั้งระบบม่านตาเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล รวมถึงหน่วยงานภาครัฐเช่น FBI, CIA และ NASA และซอฟต์แวร์เริ่มมีราคาที่ถูกลง จึงถูกนำมาใช้มากขึ้น
สำนักข่าววิหคนิวส์