ข่าวประจำวัน » เศรษฐกิจ » #8 ปี รัฐประหารล้มเหลว ! พิธา ได้ทีขี่แพะไล่ หลังชนะในกทม.

#8 ปี รัฐประหารล้มเหลว ! พิธา ได้ทีขี่แพะไล่ หลังชนะในกทม.

23 May 2022
319   0

   วันที่ 23 พฤษภาคม 2564 2565 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แสดงความเห็นต่อผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯและสมาชิกสภากรุงเทพฯ (ส.ก.) ว่า วันที่ 22 พฤษภาคม ที่ผ่านมา นอกจากจะเป็นวันเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. และ สมาชิกสภากรุงเทพ ยังเป็นวันครบรอบ 8 ปีการรัฐประหาร ยึดอำนาจจากประชาชน บดขยี้ประชาธิปไตยของพวกเราทุกคน

“8 ปีผ่านไป ผลการเลือกตั้งครั้งนี้สะท้อนว่า การรัฐประหารคือความล้มเหลว ถึงแม้ว่าคณะรัฐประหารจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อฉุดรั้งสังคมไทยไม่ให้เดินหน้า ทั้งการร่างกติกาที่บิดเบี้ยว การทำลายกลไกประชาธิปไตย และบ่อนทำลายกำลังของภาคประชาชน จาก คสช. มาจนถึงรัฐบาลประยุทธ์ที่รวบรวมนักการเมืองที่ไม่ได้เห็นคุณค่าของประชาธิปไตยมาไว้ด้วยกัน ความเลวร้ายของการรัฐประหาร ตลอดจนความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลประยุทธ์และคณะ ได้ทำให้ประเทศไทยถดถอยและล้มเหลวอย่างน่าอับอาย จนประชาชนไม่อาจฝืนใจเลือกตัวแทนที่เป็นซากเดนจากมรดกรัฐประหารได้อีกต่อไป จากที่เห็นกันในการเลือกตั้งครั้งนี้”

นายพิธา ยังระบุว่า ตนและพรรคก้าวไกล ขอขอบคุณทุกความไว้วางใจที่มอบให้ การเลือกตั้งครั้งนี้มีความหมายกับพรรคก้าวไกลมาก เพราะทำให้เราได้สื่อสาร พูดถึงความฝันและอุดมการณ์แบบเรากับชาวกรุงเทพฯ ได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรัฐสวัสดิการ ทลายทุนผูกขาด การชนกับอำนาจและกติกาที่ไม่เป็นธรรมต่างๆ รวมถึงการผลักดันให้สภา กทม. ต้องเป็นพื้นที่เปิดเผยโปร่งใส การทำสัญญาต่างๆต้องเปิดเผยต่อประชาชน

“เราเชื่อว่า สิ่งที่เราทำคือการดันเพดานทางความคิดสำหรับกรุงเทพฯ ด้วยจากนี้ไปสิ่งนี้จะเป็นแรงผลักให้กรุงเทพฯ ขับเคลื่อนต่อไป กลายเป็นเมืองที่คนเท่ากันที่เราฝันถึง และเราจะไม่หยุด เราจะสรุปบทเรียนเพื่อปรับปรุงและทำงานหนักต่อไป เพื่อให้พี่น้องประชาชนไว้วางใจพวกเรามากขึ้นๆ ครับ” นายพิธา กล่าว

นายพิธา กล่าวว่า อยากจะขอฝากเอาไว้ถึงความเข้มแข็งของระบอบประชาธิปไตย ถึงแม้ว่าในช่วง 16 ปีที่ผ่านมา ประชาธิปไตยไทยจะถูกทำลายอย่างสิ้นเชิงไปถึง 2 ครั้งจากการรัฐประหาร แต่ประชาธิปไตยก็พร้อมที่จะกลับมาเบ่งบานได้อยู่เสมอ ถึงแม้พี่น้องประชาชนจะต้องก่อร่างสร้างประชาธิปไตยขึ้นมาใหม่จากศูนย์ ตนและพรรคก้าวไกลก็พร้อมที่จะร่วมสู้ไปกับประชาชนเพื่อไม่ให้ประชาธิปไตยไทยถอยหลังหมุนย้อนกลับไปแบบเข็มนาฬิกา แต่จะต้องสู้ให้ประชาธิปไตยไทยเดินหน้าไปได้