เพจ Ratcharin Aew ระบุว่า
ระบบบัตรทองเกิดมาเพื่อให้คนไทยทุกคนเข้าถึงการรักษาอย่างเท่าเทียม นี่คือหลักประกันสุขภาพที่ควรเป็นความหวังของประเทศ แต่ในความเป็นจริงที่เกิดขึ้นมาตลอดเกือบ 20 ปี ระบบนี้กำลังถูก “บิดเบี้ยว” จนโรงพยาบาลทั่วไทยกำลังเข้าสู่ วิกฤตการเงินหนักที่สุดในประวัติศาสตร์ และประชาชนจำนวนมากไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาล ผู้พยายามก้มหน้าก้มตาให้บริการประชาชนอย่างสุดความสามารถ แต่อยู่ที่การบริหารงบประมาณบัตรทองของ สปสช.!!
#โครงสร้างที่ไม่เป็นตัวแทนประชาชนอย่างแท้จริง
ระบบหลักประกันสุขภาพควรมีเสียงของประชาชน ที่ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนอยู่ตรงกลาง แต่โครงสร้างที่ใช้อยู่กลับเปิดช่องให้คนบางกลุ่มครอบอำนาจการตัดสินใจแทบทั้งหมด สิ่งที่ควรเป็นระบบที่รับฟังความต้องการของประชาชนและผู้ให้บริการ กลับกลายเป็นระบบที่คนส่วนน้อยกำหนดชะตาสุขภาพของคนทั้งประเทศ
ผลลัพธ์คือ กติกาต่างๆ ถูกออกแบบจากมุมมองของคนในห้องประชุม ไม่ใช่จากความจริงในโรงพยาบาลที่ต้องดูแลคนไข้วันละหลายร้อยหลายพันคน
#ความไม่โปร่งใสในการบริหารที่ลากยาวมานานเกือบ20ปี
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา สปสช. ถูกตั้งคำถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า…
เงินบัตรทองจำนวนมหาศาลถูกจัดสรรอย่างไร?
ใครได้ประโยชน์มากที่สุด?
ใครเสียประโยชน์?
คำถามเหล่านี้ประชาชนไม่เคยได้รับคำตอบที่ชัดเจน ในขณะที่โรงพยาบาลจำนวนมากต้องเรียกว่า กัดฟันรักษา ทั้งที่งบประมาณเหมาจ่ายไม่เคยเพียงพอ ค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นจากการให้บริการประชาชนไปแล้วสูงกว่าที่ สปสช. จ่ายให้อย่างมหาศาล ท้ายที่สุด โรงพยาบาลทั่วประเทศจึงทยอยติดลบ จนหลายแห่งต้องจำกัด ลด การบริการ รวมถึงการจ่ายจ้างบุคลากร
#ระบบตรวจสอบที่ควรคุ้มครองประชาชนกลับทำงานไม่ได้จริง
เดิมทีควรมีองค์กรตรวจสอบเพื่อถ่วงดุล
แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา กลไกตรวจสอบถูกครอบงำจนแทบไม่สามารถทำหน้าที่ได้ ไม่สามารถท้วง ไม่สามารถชี้ผิด ไม่สามารถป้องกันความเสียหายได้จริง
เมื่อไม่มีการตรวจสอบที่โปร่งใส ผลคือ “อำนาจเบ็ดเสร็จ” ที่อยากจะทำอะไรก็ได้ สร้างผลงานนวัตกรรมและชุดสิทธิประโยชน์ออกมามากมายเพื่อซื้อใจประชาชน โดยไม่คำนึงถึงการจัดสรรงบประมาณที่สำคัญและจำเป็น และทุกความผิดพลาดเมื่อผู้รับบริการได้รับผลกระทบ ถูกดันไปให้โรงพยาบาลและผู้ให้บริการเป็นผู้รับกรรมแทน
#เผยแพร่ข้อมูลแบบด้านเดียวทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าปัญหาอยู่ที่โรงพยาบาล
ประชาชนส่วนใหญ่รับรู้ข้อมูลเพียงด้านเดียว ว่าโรงพยาบาลบริการไม่ดี บุคลากรไม่มีใจบริการ หรือหมอ พยาบาลไม่อยากรักษาหรือไง กินภาษีประชาชนแท้ๆ !??!
แต่ไม่มีใครบอกประชาชนเลยว่า …
จริงๆ แล้วโรงพยาบาลกำลังถูกบีบรัดด้วยงบประมาณที่ต่ำกว่าต้นทุนจริงจนแทบทำงานต่อไม่ได้
ไม่มีใครบอกเลยว่า … รพ.จำนวนมากต้องใช้งบตัวเองและงบบุคลากรมาโปะช่องโหว่ของระบบบัตรทองจนหนี้พุ่ง
ไม่มีใครบอกเลยว่า … ผู้ให้บริการต้องทำงานหนักมากขึ้นเรื่อยๆ โดยที่ทรัพยากรไม่เพิ่มตามความเป็นจริง
ไม่มีใครบอกเลยว่า … ปัญหาต้นทางคือการบริหารจัดสรรงบประมาณที่ผิดพลาด ไม่ใช่จากทัศนคติของบุคลากรเลย
ประชาชนจึงโกรธผิดคนมาเป็นสิบปี!!
#ระบบบัตรทอง_ดีมาก_แต่การบริหาร_แย่_จนทำลายของดี
บัตรทองคือแนวคิดที่ยอดเยี่ยม ทำให้ประชาชนทุกคนควรเข้าถึงการรักษา แต่ถ้าการบริหารจัดการยังถูกครอบงำ ไม่มีการตรวจสอบ ไม่มีความโปร่งใส และไม่รับฟังโรงพยาบาลผู้ให้บริการจริงในพื้นที่ สุดท้ายผู้ที่เดือดร้อนที่สุดคือประชาชนเอง
โรงพยาบาลไม่มีเงิน = ขาดแคลนยา อุปกรณ์
ไม่มีบุคลากรพอ = รอคิวนาน
ไม่มีงบพัฒนา = คุณภาพลดลง
แล้วภาพที่คนเห็นคือ ระบบสาธารณสุขกำลังถดถอย ทั้งที่ต้นเหตุปัญหาอยู่ที่การบริหารงบประมาณส่วนกลาง
นี่ไม่ใช่ปัญหาของหมอ ไม่ใช่ปัญหาของโรงพยาบาล แต่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่สังคมไทยต้องรู้เท่าทัน ก่อนที่ระบบสาธารณสุขทั้งประเทศจะพังลงไปต่อหน้าต่อตา
#กู้วิกฤตโรงพยาบาลต้องปฏิรูปสปสช.
