ข่าวประจำวัน » จับ 3 อินฟูดัง !! ปลอมเป็นแอดมิน เปลี่ยนชื่อ กก.บริษัท ถอนเงินหนีกว่า 18 ล้าน

จับ 3 อินฟูดัง !! ปลอมเป็นแอดมิน เปลี่ยนชื่อ กก.บริษัท ถอนเงินหนีกว่า 18 ล้าน

7 November 2025
8   0

สืบนครบาล IDMB-เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2568 สืบนครบาล ร่วม สืบ6 และ สน.บางรัก ร่วมกันจับกุม 3 ผู้ต้องหา ดังนี้

1. นายอานุวัฒน์ฯ อายุ 25 ปี หน้าที่ ทำทีสมัครงานเข้า แล้วเอารหัสมาโหลดข้อมูลออกจากบริษัท มอบข้อมูลให้กับกลุ่มเพื่อนคนร้ายที่เหลือดำเนินการ

2.นายคชาฯ หน้าที่  ขับรถพานายนัธทวัฒน์ฯ ไปกดเงินตามจุดต่างๆ จำนวน 5 ครั้ง 

3.นายนัธทวัฒน์ฯ อายุ 29 ปี หน้าที่ นำชื่อตนเองไปใส่แทนคณะกรรมการคนเก่าของบริษัท ,ไปแจ้งความสมุดบัญชีหาย ,ถอนเงินออกจากบัญชี 18 ล้านบาท

.

พฤติการณ์แห่งคดี สืบเนื่องจากผู้เสียหาย ได้เข้าไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.บางรัก ว่าเมื่อวันที่ 30 ก.ย.68 ได้รับนายอานุวัฒน์ฯ มาทำงานในตำแหน่งแอดมินประจำบริษัท โดยระหว่างที่ นายอานุวัฒน์ฯ เข้ามาทำงานในบริษัทนั้น บริษัทได้ทำรหัสผ่านเพื่อเข้าถึงข้อมูลให้กับนายอานุวัฒน์ฯ กระทั่งในวันที่ 2 ต.ค.68 นายอานุวัฒน์ฯ ได้แจ้งกับทางบริษัทฯ ว่าขอลาป่วย และไม่ได้มาทำงานอีกเลย ต่อมาบริษัท ได้ตรวจสอบระบบฐานข้อมูล จนกระทั่งพบว่า มีการดาวน์โหลดไฟล์หน้าหนังสือเดินทางของ ผู้เสียหายจากระบบของบริษัทฯ โดยผู้ที่ดาวน์โหลดคือ นายอานุวัฒน์ฯ

.

เมื่อวันที่ 6 ต.ค.68 ที่ผ่านมา กลุ่มของนายอานุวัฒน์ฯ ได้ปลอมแปลงเอกสาร โดยให้นายนัธทวัฒน์ฯ ดำเนินการยื่นคำขอผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ (DBD Biz Regist) โดยได้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงกรรมการของบริษัทฯ จากเดิมมีผู้เสียหาย และนายชนม์ชนกฯ ออกจากการเป็นกรรมการของบริษัทฯ แล้วเปลี่ยนเป็นชื่อของตนเอง เข้ามาในฐานะกรรมการคนใหม่ และดำเนินการเปลี่ยนแปลงรายชื่อผู้ถือหุ้น โดยการยื่นคำขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงดังกล่าว นายนัธทวัฒน์ฯ  ได้ปลอมลายมือชื่อของผู้เสียหายเพื่อใช้ในเอกสารคำรับรองการจดทะเบียนบริษัทจำกัด หลังจากนั้นนายนัธทวัฒน์ฯ ได้ไปแจ้งความสมุดบัญชีธนาคารหายไว้ที่ สน.สุทธิสาร

.

ต่อมาเมื่อวันที่ 7 ต.ค.68 ระบบอนุมัติการเปลี่ยนชื่อ ไล่ผู้ถือหุ้นในบริษัทออก

วันที่ 8 ต.ค. 68 นายนัธทวัฒน์ฯ ได้นำเอกสารไปยื่นขอเปิดสมุดบัญชีใหม่กับทางธนาคาร โดยแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ธนาคารว่าตนเองเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท  ได้แจ้งว่าประสงค์ขอเปลี่ยนแปลงกรรมการและขอออกสมุดบัญชีใหม่ เนื่องจากสมุดบัญชีหาย และทำธุรกรรมถอนเงินสดออกจากบัญชีบริษัท จากการตรวจสอบพบว่า วันที่ 8-9 ต.ค.68 นายคชาฯเป็นผู้ขับรถ พานายนัธทวัฒน์ฯ นั่งไปด้วยเพื่อไปถอนเงินสดตามจุดต่างๆรวม 5 ครั้ง เป็นเงินทั้งหมด 18 ล้านบาท 

.

จากการตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่าเคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว จำนวนหลายบริษัท ในขณะนี้ ตรวจสอบพบ 1 บริษัท ได้รับความเสียหายเช่นเดียวกันจำนวน 1.6 ล้านบาท

.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมในนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ส่งพนักงานสอบสวน สน.บางรัก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป