มติชน-สมาคมตำรวจ ยื่นหนังสือถึง ผบ.ตร กรณี “สุรเชษฐ์-อัจฉริยะ” ใส่ร้ายองค์กรตำรวจเป็นองค์กรอาชญากรรมใหญ่สุด
เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 4 สมาคมตำรวจ ประกอบด้วย 1.สมาคมตำรวจ, 2.สมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ 3.ชมรมพนักงานสอบสวน และ4.ชมรมข้าราชการตำรวจบำนาญนำ โดย พล.ต.อ.วินัย ทองสอง และพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
รวมตัวเข้ายื่นหนังสือถึงพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกร้องให้ดำเนินการทางวินัยและอาญา กับพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลืออาชญากรรม กรณีออกมาเคลื่อนไหวให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องหลายร้อยนายซึ่งสร้างความเสียหายกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประชาชนอย่างร้ายแรง
โดยมีพล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้รับเรื่อง
พล.ต.อ.วินัย กล่าวว่าการเรียกร้องในวันนี้เนื่องจากมองว่าการออกมาใส่ร้ายองค์กรตำรวจของ 2 คนเป็นการบั่นทอนและทำลายชื่อเสียงรวมทั้งทำลายความเชื่อมั่นประชาชนที่มีต่อองค์กรตำรวจเนื่องจากองค์กรตำรวจก่อตั้งมานานเป็น100ปี จึงต้องการกอบกู้ศรัทธา โดยย้ำว่าหากทั้ง2คนมีพยานหลักฐานที่ชัดเจนก็ขอให้นำมามอบให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อเอาผิดและจัดการกับตำรวจไม่ดี
อีกทั้ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ ที่เป็นอดีตข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่แต่กลับมีพฤติกรรม”พูดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น” เป็นเพียงเพราะผิดหวังจากตำแหน่งและถูกให้ออกจากราชการ พร้อมเรียกร้องให้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการอย่างจริงจังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกพาดพิงว่ามีการกระทำความผิด โดยทั้ง4ประชาคม จะเฝ้าติดตามความคืบหน้า
ส่วนที่มีการเรียกร้องให้ พล ต.อ.กิตติ์รัฐ ฯให้ออกมาตอบโต้และไม่ควรนิ่งเฉยในฐานะผู้นำองค์กรตำรวจด้วยตนเองนั้น มองว่าบุคคลิกของผู้นำแต่ละคนไม่เหมือนกัน ตนเองจึงต้องออกมาเรียกร้องและตอบโต้ยืนยันว่าการเรียกร้องของ 4 ประชาคมไม่ใช่เป็นกระบอกเสียงหรือเป็นการเป็นหนังหน้าไฟของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตนเองไม่เคยยกหูคุยทางโทรศัพท์กับพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯหลังจากที่ออกมากล่าวหาเนื่องจากมองว่าโตๆกันแล้ว แม้ว่าก่อนหน้านี้ตนเองจะเคยเป็น1ในคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีสมัยนั้นแต่งตั้งเพื่อตรวจสอบ การกระทำของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์และพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุวิมลอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่มีปัญหากันซึ่งคณะกรรมการฯ ได้มีมติชี้มูลว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ฯมีความผิดแต่พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ฯยังมียังไม่มีมติออกมาต่อสาธารณชนนั้นทำให้เกิดข้อสงสัย
พล.ต.อ.วินัยฯกล่าวว่าเรื่องดังกล่าวยังอยู่ในกระบวนการ และยืนยันว่าเรื่องนี้มีพยานหลักฐานทั้งสองฝ่าย แต่ไม่ขอให้รายละเอียดมากไปกว่านี้แม้ว่าปัจจุบันทาง ก.ร.ตร.จะมีมติชี้มูลพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ฯกับพวกไปแล้วก็ตาม
ทางด้าน พล.ต.ต.ไอยศูนย์ สิงหนาท หัวหน้าสมาคมตำรวจสาขานครราชสีมา กล่าวว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นสร้างความไม่พอใจให้กับข้าราชการตำรวจระดับชั้นผู้น้อยเป็นจำนวนมากที่รู้สึกไม่สบายใจและขอให้ตนเองออกมาดำเนินการกับเรื่องนี้อย่างเด็ดขาดเพราะทำให้บั่นทอนกำลังใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมยอมรับว่าเสียดายพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯที่ตนเองรู้จักและติดตามการทำงานมาโดยตลอดทั้งๆที่เป็นตำรวจหนุ่มไฟแรงและมีอนาคตที่สดใสแต่กลับมากล่าวหาใส่ร้ายองค์กรตำรวจที่ตนเองเติบโตมา
โดยพล.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าวชี้แจงกรณีเรียกร้องให้พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ฯ ออกมาชี้แจงและตอบโต้ในเรื่องดังกล่าวด้วยตนเองในฐานะผู้นำหน่วยว่าการออกมาตอบโต้มีหลายวิธีแต่วิธีที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทำคือการตอบโต้ด้วยการทำงานมีผลการจับกุมสร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์เป็นวิธีที่ทำให้ประชาชนเห็นผลงานมากกว่า ซึ่งยืนยันว่าขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็มีการรวบรวมพยานหลักฐานยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับทุกคนที่กล่าวหาใส่ร้ายองค์กรตำรวจโดยปราศจากหลักฐานอย่างเด็ดขาด เพราะการกล่าวหาใครต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนมีกระบวนการทำงานอยู่แล้ว
