เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าหลายฝ่ายวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองของรัฐบาลภูมิใจไทยว่าอาจอยู่ไม่ครบ 4 เดือน อาจตัดสินใจยุบสภาฯก่อนเปิดสมัยประชุมสภาฯ วันที่12 ธ.ค. เนื่องจาก 1.หลีกเลี่ยงการถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะมีความสุ่มเสี่ยงอาจถูกโหวตล้มรัฐบาล เพราะถ้าพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยื่นญัตติต่อประธานสภาฯ รัฐบาลจะยุบสภาฯไม่ได้ ดังนั้นถ้าจะยุบสภาฯก็ต้องยุบก่อนวันดังกล่าว 2.การแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้จะสัญญากับพรรคประชาชน แต่เดือนธ.ค.ถือเป็นช่วงสำคัญ อาจมีการลงมติในวาระสาม ถ้ายุบสภาฯก่อน การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ดำเนินการกันอยู่จึงไม่มีผล และ 3.บางพรรคการเมือง จัดทัพข้าราชการ กลไกปกครอง และปัจจัยอื่นเพียบพร้อม อาจอาศัยช่วงที่พรรคอื่น ๆ ยังตั้งตัวไม่ทัน ยุบสภาฯทันที เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมือง
“พรรคส้ม ตอนนี้ดูเหมือนจะโจมตี รัฐบาลนายอนุทินและคนในรัฐบาลอย่างหนักหน่วง หวังว่าคงไม่ใช่แค่การพูดเอาใจแฟนคลับ ดีแต่พูด โดยเฉพาะการเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ถ้าไม่มีนัยยะแอบแฝงหรือมุ่งประโยชน์การเมืองเรื่องคะแนนเสียง ให้สมกับสโลแกน มีเราไม่มีเทา จะปราบสีเทา สีดำ อย่าลืมก่อนหน้า ส3ส.พรรคประชาชนทั้งพรรคโหวตให้รัฐบาลนายอนุทิน เป็นนายกฯ แต่ไม่ยอมเข้าร่วมรัฐบาล ได้รักษาองค์ประชุมในสภาฯมาโดยตลอด ขอท้าว่า เปิดประชุมสภาสมัยหน้าเดือนธ.ค. ร่วมกับพรรคเพื่อไทยยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายอนุทินทันทีได้หรือไม่” นายพร้อมพงศ์กล่าว
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า จากการอภิปรายของสส.พรรคประชาชน เปิดแผลหลายๆ เรื่อง เชื่อว่าพรรคประชาชนคงมีข้อมูลมากเพียงพอที่จะซักฟอกคณะรัฐมนตรี(ครม.)ทั้งคณะ ตรวจสอบรัฐบาลนายอนุทิน ควรไล่บี้เอาให้สุดซอย โดยไปยื่นตามหน่วยงานต่างๆด้วย จะได้ทำให้ประชาชนมั่นใจ ว่าลงมือเดินหน้าตรวจสอบจริง ไม่ได้ทำแค่เช็กเรตติ้งหรือมีแค่วาทกรรมเพื่อเรียกคะแนนเสียงเท่านั้น
นอกจากนี้ นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวถึงการเดินทางไปร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ที่สาธารณรัฐเกาหลี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ช่วงหนึ่งได้หารือกับ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ยืนยันจะร่วมมือการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สแกมเมอร์ โดยนายอนุทิน ระบุว่าเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ พร้อมระดมความร่วมมือจากทุกภูมิภาค ในการป้องกันปราบปราม ว่า ขอให้ดำเนินการตามที่พูดเพราะพี่น้องคนไทยหลายคนสูญเสียทรัพย์สินเงินทอง บางรายจบชีวิตอย่างน่าเศร้า เพราะถูกหลอกลวง ปัญหานี้เป็นภัยร้ายแรงไม่ต่างจากยาเสพติด ทำลายคุณภาพชีวิต สังคม เศรษฐกิจ นำไปสู่การก่ออาชญากรรมอื่นๆ ทั้งค้ามนุษย์ ฟอกเงิน ธุรกิจสีเทา สีดำ วันนี้ลามมาถึงการเมือง มีนักการเมืองบางคน บางพรรค ถูกตั้งข้อกล่าวหาจากสังคมไปด้วย
“ขอให้นายอนุทิน ทำให้ผู้นำชาติต่างๆและชาวโลกมั่นใจ เราจะไม่ยอมให้ผู้ไม่หวังดี ใช้ไทยเป็นแหล่งก่ออาชญากรรมไซเบอร์ สแกมเมอร์ ไม่ใช่ฐานฟอกเงินพวกสีเทา สีดำ ปล่อยให้อาชญากรทำผิดกฎหมาย พร้อมร่วมมือทุกชาติเพื่อปราบปราม เอาผิดถึงตัวการใหญ่ ไล่บี้ยึดทรัพย์ ถ้าใครเกี่ยวข้อง ทั้งนักการเมือง รัฐมนตรี ข้าราชการ ตำรวจ ทหาร ชาวต่างชาติถ้าทำผิดในประเทศไทย ไม่มีการละเว้นจะบังคับใช้กฎหมายอย่างรุนแรงเด็ดขาด ทำให้เห็นเป็นกรณีตัวอย่าง จะทำให้ชาวโลกและคนไทย มั่นใจว่ารัฐบาลภูมิใจไทยพูดแล้วลงมือทำจริงๆ” นายพร้อมพงศ์กล่าว
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/politics/news_5436655
