THE ROOM 44 – “สม รังสี” ปลุกทหาร–ประชาชนกัมพูชา ลุกฮือโค่นอำนาจ “ตระกูลฮุน” กล่าวหาปล่อยประเทศถูกโจมตี
วันที่ 9 ธ.ค. 2568 สม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชา ได้เผยแพร่แถลงการณ์ของ “รัฐบาลกัมพูชาอิสระ” (Government of Independent Cambodia) เรียกร้องให้ทหารกัมพูชาและประชาชนกัมพูชาสามัคคีกันและลุกขึ้นมาขับไล่ “ตระกูลฮุน” ออกจากอำนาจในดินแดนกัมพูชา
แถลงการณ์ระบุว่า มีเหตุผลที่ชัดเจนและไม่อาจปฏิเสธได้ 2 ประการที่ทำให้จำเป็นต้องปลดตระกูลฮุนออกจากตำแหน่งผู้นำของดินแดนอันเป็นอธิปไตยของกัมพูชา
“หนึ่ง ระบอบการปกครองของตระกูลฮุนได้ใช้ทหารกัมพูชาและพลเรือนกัมพูชาเป็นโล่มนุษย์ ทำให้กองทัพไทยสามารถโจมตีดินแดนกัมพูชาได้อย่างอิสระ ในขณะที่ ฮุน เซน และ ฮุน มาเนต สั่งทหารกัมพูชาไม่ให้ปกป้องชีวิตหรือปกป้องดินแดนกัมพูชา”
“มีผู้นำหรือผู้บัญชาการของประเทศใดที่ห้ามไม่ให้ทหารแนวหน้าที่ประจำการอยู่ตามชายแดนใช้อาวุธเพื่อป้องกันตนเองจากการรุกรานทางทหารจากต่างชาติหรือไม่? เราเห็นแล้วว่ามีเพียงผู้นำตระกูลฮุนเท่านั้นที่ทำเช่นนี้”
“กลยุทธ์ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนและกองกำลังของเราถูกโจมตีจากต่างประเทศอย่างง่ายดายเช่นนี้เกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว ทำให้ทหารและพลเรือนชาวกัมพูชาจำนวนมากต้องสูญเสียชีวิตอย่างไม่เป็นธรรม ทหารกัมพูชาและประชาชนชาวกัมพูชาต้องไม่ยอมให้ผู้นำเสียสละชีวิตพี่น้องของตนเป็นเป้ายิงอาวุธของประเทศเพื่อนบ้าน”
“การทำหน้าที่เป็นโล่ให้กับกองกำลังต่างชาติไม่ได้นำมาซึ่งอะไรอื่นนอกจากความตาย การบาดเจ็บ และการสูญเสียดินแดนแต่อย่างใด”
“สอง ระบอบการปกครองของตระกูลฮุนกำลังปกป้องเครือข่ายอาชญากรรมข้ามพรมแดนระหว่างประเทศอย่างแข็งขัน การปกป้องอาชญากรรมระหว่างประเทศโดยตระกูลฮุนนี้ทำให้กัมพูชาและชาวกัมพูชาตกอยู่ในวิกฤตการณ์ในทุกภาคส่วน ทั้งวิกฤตเศรษฐกิจ การสูญเสียโอกาสในการทำงาน ความเสียหายร้ายแรงต่อการดำรงชีพของประชาชน แผนการหลอกลวงทางการเงิน กับดักหนี้สิน การแพร่ระบาดของยาเสพติด ความไม่มั่นคงทางสังคม และความอยุติธรรมทางสังคม”
“เมื่อผู้นำตระกูลฮุนปกป้องอาชญากร ก็เป็นที่ชัดเจนว่าพวกเขาทำให้ประชาชนกลายเป็นศัตรูของพวกเขา”
“เราขอเรียกร้องให้ทหารกัมพูชา กองกำลังติดอาวุธ และประชาชนกัมพูชาทั่วประเทศสามัคคีกันและยุติการปกครองของตระกูลฮุน หยุดยั้งการรุกรานจากประเทศเพื่อนบ้าน และให้ความร่วมมือกับชุมชนระหว่างประเทศเพื่อทลายเครือข่ายอาชญากรในกัมพูชาที่กำลังทำลายชาติกัมพูชา”
