‘ราเมศ’จวก’บรู๊ค‘โกหก ยืนยันสมัย‘รัฐบาลชวน’ไม่เคยปรึกษา‘ทักษิณมา
เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2568 นายราเมศ รัตนะเชวง เลขานุการนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงกรณีที่นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่และโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้กล่าวถึง ในอดีต สมัยที่เกิดปัญหาเศรษฐกิจวิกฤตต้มยำกุ้ง รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ในขณะนั้นนำโดย นายชวน หลีกภัย และมี นายศุภชัย พานิชภักดิ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ก็เคยเชิญคนชื่อทักษิณ ชินวัตร เข้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอให้ช่วยเหลือรัฐบาลในการเจรจาทางการค้ากับประเทศออสเตรเลียมาแล้วนั้นว่า คำพูดของโฆษกพรรคเพื่อไทย ล้วนแล้วแต่เป็นความเท็จทั้งสิ้น โกหกพี่น้องประชาชนพยายามปั้นข้อเท็จจริงมารองรับการกระทำของเจ้านาย เพราะตามข้อเท็จจริงแล้ว ในสมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย ไม่เคยเชิญนายทักษิณ ชินวัตร มาเพื่อขอความช่วยเหลือรัฐบาลในการเจรจาทางการค้ากับประเทศออสเตรเลีย
นายราเมศ กล่าวว่า ในช่วงนั้นทั้งตัวนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีที่เป็นทีมเศรษฐกิจ เรียกว่าเป็น ครม.ดรีมทีม เช่น ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ นายธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม นายโพธิพงษ์ ลำซำ ทุกคนล้วนมีความรู้ความสามารถมีประสบการณ์ ทำงานยึดหลักความสุจริตต่อบ้านเมือง ยึดหลักธรรมาภิบาล ทุกคนที่ร่วมกันทำงาน ไม่ได้เข้ามาทำงานโดยยึดหลักธุรกิจการเมือง ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ทำให้การแก้ไขปัญหาประสบความสำเร็จ จนนำไปสู่การให้ความเชื่อมั่นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
“ดังนั้นการที่รัฐบาลขณะนี้ได้เชิญนายทักษิณ ชินวัตร มาร่วมให้คำปรึกษา ทำงานกับรัฐบาล ทุกคนไม่ค่อยแปลกใจเพราะนายทักษิณคือนายกรัฐมนตรีตัวจริง และแม้ว่าจะพูดอยู่เสมอว่าเขาไม่ได้ครอบงำรัฐบาลแต่เขาครอบครองรัฐบาล ถือว่ามีความหมายชัดเจนในตัวเอง รวมถึงพฤติกรรมที่บอกว่าเรื่องนี้ตนได้สั่งการแล้วให้ไปจัดการนั้น จึงต้องถามว่าทำไปในฐานะอะไร และที่น่าละอายใจจนทำให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัย คือตัวนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจกลับไม่มีสติปัญญา ไม่มีความรู้ความสามารถถึงขนาดนั้นเลยหรือ เพราะหากเป็นเช่นนั้นก็ควรลาออกไปเพื่อให้คนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาบริหารประเทศจะดีกว่า”
ADVERTISEMENT
นายราเมศ กล่าวต่อว่า ประเด็นเหล่านี้องค์กรที่เกี่ยวข้องจะต้องพิจารณาเช่นกันว่าการกระทำของนายทักษิณมีความผิดตามกฎหมายหรือไม่ รัฐบาลมาจากพรรคการเมือง ซึ่งมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนหลักการดำเนินการทางการเมือง และนโยบายหลักคิดในการบริหารบ้านเมืองก็ล้วนมาจากพรรคแกนนำด้วย การที่ยอมให้บุคคลอื่นคือนายทักษิณมาครอบงำ ชี้นำการบริหารกิจการของบ้านเมือง โดยขาดความอิสระ ทำให้ประชาชนเห็นความชัดเจนว่าเป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย และโดยหลักการของพระราชบัญญัติบริหารราชการแผ่นดิน ไม่มีมาตราไหนให้อำนาจบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องมาบริหารราชการแผ่นดินแทนนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ได้
“โฆษกพรรคเพื่อไทยควรสอบถามข้อมูลให้ชัดเจนก่อนออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ไม่เช่นนั้นจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลอื่น เว้นแต่รู้อยู่แล้วว่าไม่เป็นจริงแต่มาแถลงข่าวเพื่อโกหกพี่น้องประชาชนไปรายวัน” นายราเมศ กล่าว