“สส.ส้ม” โวยหนัก กมธ.เสียงข้างมาก เคาะร่างพ.ร.บ.สันติสุขฯ ปิดช่องนิรโทษฯคดี 112 ล้างผิดเยาวชน 3 นิ้ว
21 ต.ค.2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ… ซึ่ง คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ ที่มีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นประธาน กมธ.ฯ พิจารณาแล้วเสร็จในวาระสอง หลังจากที่พักการประชุมไปประมาณ 1 ชั่วโมง เนื่องจากมีข้อเห็นแย้งระหว่างกรรมาธิการ ในร่างมาตรา 3 ว่าด้วยเงื่อนไขของการไม่ได้รับนิรโทษกรรมในบางคดี ทว่ากมธ.เสียงข้างน้อย ได้สงวนความเห็นให้ปรับเนื้อหาเพิ่มการนิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 แบบมีเงื่อนไข
หลังจากการหารือแล้วเสร็จ นายณัฐวุฒิ ได้แจ้งว่า ที่ประชุมมีข้อยุติว่า ร่างมาตรา 3 นั้นจะเป็นไปตามที่กมธ.เสียงข้างมากเสนอ แต่ในร่างมาตรา 9/1 นั้นได้ปรับแก้ไขเนื้อหาดังนั้นเชื่อว่าสภาจะเห็นชอบ
อย่างไรก็ดีน.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคประชาชน ในฐานะกมธ.เสียงข้างน้อย กล่าวว่า ยืนยันการปรับแก้เนื้อหาที่เพิ่มการนิรโทษกรรมให้เยาวเชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี เพราะเชื่อว่าไม่ขัดต่อหลักการ อีกทั้งการกำหนดประเด็นเยาวชนไม่จำเป็นต้องดูรายละเอียดขนาด ว่าการถูกดำเนินคดีอยู่ในขั้นตอนใด จากที่กมธ.พิจารณาคดีปิดสนามบิน คืนสิทธิล้มละลาย ระงับค่าเสียหายหรือการกระทำของผู้ใหญ่ที่หนักกว่ามาก ไม่ต้องถกเงื่อนไขต่างๆ
“รู้สึกผิดหวังว่าต้องหาทางออกแบบอ้อมๆ เลียบๆ เคียงๆ และไม่ได้ถามด้วยซ้ำว่าคนที่ได้รับประโยชน์ต้องการอะไรกันแน่ แม้โหวตวันนี้จะไม่ชนะ แต่ฝากที่ประชุมว่า พ.ร.บ.นี้ สร้างเสริมสันติสุขไม่ได้ หากมองคนอีกกลุ่มเป็นคนตรงข้าม หาวิธีเลี่ยงบาลี นิรโทษกรรมกับเยาวชน” น.ส.ศศินันท์ กล่าว
จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติตัดสิน โดยพบว่ามติเสียงข้างมาก184 เสียง เห็นด้วยกับกมธ.เสียงข้างมาก ขณะที่ 133 เสียงเห็นด้วยกับกมธ.เสียงข้างน้อย
จากนั้นที่ประชุมได้พิจารณาในรายละเอียดของมาตราต่อไป