POLITICS: ‘พิธา’ ไม่เห็นด้วยใช้จริยธรรมมาทำลายล้างคดี 44 สส. บอกผมไม่เป็นไร แต่หลายคนยังเป็นแกนนำ ปชน. อยู่ แนะ ‘เท้ง’ อย่าเพิ่งเสียกำลังใจ เป็นตัวของตัวเอง มองไปข้างหน้าให้เยอะที่สุด
วันนี้ (10 ต.ค. 68) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงคดี 44 สส. พรรคก้าวไกลเสนอร่างแก้ไขมาตรา 112 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เตรียมชี้มูลความผิดในเดือน ธ.ค. นี้ ว่า การที่นักการเมืองและประชาชนมีจริยธรรมเป็นเรื่องดี แต่การเอาจริยธรรมมาประหัตประหารทางการเมืองตลอดชีวิตไม่ถูกต้อง หากไม่ได้สัดส่วน มีตำรวจจริยธรรมแล้วไม่มีใครไปตรวจสอบตำรวจจริยธรรม ก็อาจจะเป็นอันตรายกับประชาธิปไตย ซึ่งเรื่องนี้ต้องถาม นพ. วาโย อัศวรุ่งเรือง สส. บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ซึ่งเป็นหัวหน้าในการสู้คดี ส่วนตัวได้ตรวจสอบกับทีมกฎหมายของตนเอง คดีนี้อยู่ในชั้นอนุฯ ใน ป.ป.ช. น่าจะเสร็จสิ้นในชั้นนี้ภายในเดือน พ.ย. มีความเป็นไปได้ที่จะมีการชี้มูลในช่วงการยุบสภา หากยุบสภาเร็วแล้วมีการเลือกตั้งในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. 69 ก็มีความเป็นไปได้ที่พรรคประชาชน จะถูกทำลายอีกครั้งเหมือนพรรคก้าวไกลและอนาคตใหม่
“ผมเองไม่เป็นไรอยู่แล้ว แต่หลายคนยังเป็นแกนนำพรรค จึงอยากส่งเสียงถามประชาชนดัง ๆ เพราะอยู่ดี ๆ ก็มีข่าวออกมาเรื่อย ๆ ไม่รู้ว่ามีใครให้ข่าว ไม่รู้ว่าเป็นการทำลายความเชื่อมั่นของพรรคประชาชน พรรคที่ 3 ในกระบวนการของพวกเราอย่างมีนัยสำคัญ หรือตั้งใจจะทำลายล้างกันจริง ๆ โดยใช้จริยธรรมที่ไม่ได้สัดส่วน เพราะคนที่ตรวจสอบจริยธรรมไม่มีใครไปทำลายดาบเขาได้ เป็นสิ่งที่อันตรายมาก” นายพิธา กล่าว
เมื่อถามว่าให้คำแนะนำนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส. บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน เกี่ยวกับคดี 44 สส. และการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างไรบ้าง นายพิธา กล่าวว่า เป็นตัวของตัวเอง มองไปข้างหน้าให้เยอะที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อย่าเพิ่งเสียกำลังใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น