วันที่ 7 กรกฎาคม 2568 พลตรี นายแพทย์ เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ประกาศให้ สำนักงานประกันสังคม และ สปสช ตลอดจนสาธารณชนทราบทั่วกันว่า ผมเป็นผู้นำ ผู้บริหารที่เคร่งครัดในวินัย และคำมั่นสัญญามาก การเบี้ยวหนี้-เหนียวหนี้ที่ สำนักงานประกันสังคม และ สปสช ประพฤติปฏิบัติจนเป็นจารีตของหน่วยงานทั้งสองนั้น ส่งผลกระทบต่อ
1. บุคลากรซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของผม ซึ่งปฏิบัติงาน เลี้ยงชีพด้วยค่าจ้าง เงินเดือนที่มาจากเงินรายได้ของ รพ.ที่ให้บริการผู้ป่วยทั้งสิทธิประกันสังคมและสิทธิบัตรทอง 30 บาท
2. บริษัทยา เวชภัณฑ์ และ ห้างร้านต่าง ๆ ซึ่งเป็นคู่ค้าในการจัดส่งวัตถุดิบ เพื่อการรักษาผู้ป่วยทั้งสิทธิประกันสังคมและสิทธิบัตรทอง 30 บาท
ผลกระทบจากการที่หน่วยงานทั้งสองเบี้ยวหนี้-เหนียวหนี้จนเป็นจารีตปฏิบัติเช่นนี้ เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของผมที่จะต้องทวงหนี้และกดดันให้ผู้บริหารหน่วยงานทั้งสองมีวินัย ความรับผิดชอบ รู้สำนึกในการปฏิบัติตามคำมั่นสัญญา
หากผู้นำอย่างผมปล่อยปละละเลย เพิกเฉย เกรงอกเกรงใจหน่วยงานทั้งสองแล้วจะส่งผลกระทบต่อคนจำนวนมาก ทั้งที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของผมเอง และเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของบริษัทยา เวชภัณฑ์ และ ห้างร้านต่างๆ ซึ่งเป็นคู่ค้าของ รพ.มงกุฎวัฒนะด้วย
ดังนั้น ใครก็ตามที่โลกสวย มารยาทงาม ทนเห็นพฤติกรรมทวงหนี้ของผมที่ดุดัน เถื่อน ถ่อย สถุล กับหน่วยงานทั้งสอง ก็ขอเชิญท่านไปที่ชอบ ๆ ไปไกล ๆ คนอย่างผมไม่เคยทอดทิ้งผู้ใต้บังคับบัญชาของผม ไม่เคยทอดทิ้งบริษัท ห้างร้านต่าง ๆ ซึ่งเป็นคู่ค้าของ รพ.มงกุฎวัฒนะ ที่มีผมเป็นผู้นำ
จึงประกาศให้สาธารณะทราบทั่วกัน โดยเฉพาะฝากแชร์ไปถึงผู้มีอำนาจ ผู้บริหาร ผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานทั้งสองให้ทราบด้วย พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ 7 ก.ค.68 เวลา 14.35 น.
ทั้งนี้ พลตรี นายแพทย์ เหรียญทอง แน่นหนา ได้โพสต์ประกาศเมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมาว่า ตั้งแต่ 1 ส.ค. 68 เป็นต้นไป ผู้ป่วยสิทธิประกันสังคม และสิทธิบัตรทองที่ขึ้นตรงกับ รพ.มงกุฎวัฒนะ จะได้รับการจ่ายยาสูงสุดไม่เกินครั้งละ 14 วัน เนื่องจาก รพ.มงกุฎวัฒนะขาดสภาพคล่องทางการเงินจากการที่ สำนักงานประกันสังคม และ สปสช เบี้ยวหนี้-เหนียวหนี้จำนวนมาก เป็นเวลานานหลายเดือน
ผู้ป่วยสิทธิประกันสังคม และสิทธิบัตรทองที่ขึ้นตรงกับ รพ.มงกุฎวัฒนะที่ไม่สะดวกรับยาไม่เกิน 14 วัน ติดต่อขอรับสรุปประวัติการรักษาเพื่อย้ายสิทธิไปยังสถานพยาบาลอื่นตามที่ สำนักงานประกันสังคม และ สปสช จัดให้
ทั้งนี้ท่านสามารถติดต่อขอรับสรุปประวัติการรักษาได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ติดต่อได้ที่เคาน์เตอร์เวชระเบียนสิทธิประกันสังคม และสิทธิบัตรทอง ในระหว่างที่ท่านยังไม่สามารถย้ายสิทธิไปยังสถานพยาบาลอื่น เฉพาะผู้ป่วยที่ยากจนเท่านั้นที่จะได้รับการจ่ายยาเกินกว่า 14 วัน แต่จะต้องได้รับอนุมัติจาก ผอ.รพ. เป็นรายครั้งที่มารับการตรวจเป็นครั้งคราวไปตามแต่กรณี
ขอได้โปรดทราบทั่วกันว่า สาเหตุทั้งปวงเกิดขึ้นจากทั้ง 2 หน่วยงาน คือ สำนักงานประกันสังคม และ สปสช เบี้ยวหนี้-เหนียวหนี้ จนทำให้ รพ.มงกุฎวัฒนะขาดสภาพคล่องทางการเงินในการจัดซื้อยา – ค่าจ้าง – ฯลฯ
หมายเหตุ
1. รพ.มงกุฎวัฒนะจะยกเลิกผู้ป่วยสิทธิบัตรทองขึ้นตรง รพ.มงกุฎวัฒนะ ทั้งหมด แล้วจะรับขึ้นตรงใหม่ แต่จะรับเฉพาะผู้ป่วยสิทธิบัตรทองที่ยากจนเท่านั้น ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองที่กัดฟันพึ่งตนเองได้ ได้โปรดใช้บริการโครงการบัตรทองแพลตตินั่ม จ่ายเงินเอง ราคา รพ.รัฐ
2. รพ.มงกุฎวัฒนะจะลดจำนวนผู้ประกันตนสิทธิประกันสังคมขึ้นตรง รพ.มงกุฎวัฒนะจาก 100,000 คน คงเหลือไม่เกิน 20,000 คนภายในสิ้นปี พ.ศ. 2568 นี้ จึงขอเชิญชวนผู้ประกันตนสิทธิประกันสังคมที่ขึ้นตรง รพ.มงกุฎวัฒนะที่ไม่สะดวกในการรับการจ่ายยาไม่เกิน 14 วัน ได้โปรดย้ายสิทธิไปยัง รพ. อื่น ตามที่สำนักงานประกันสังคมจัดให้