ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ระบุว่า
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ประเทศไทยต้อง “ร่วมกันเปลี่ยน” ก่อนล่มสลาย
🇹🇭 ประเทศไทย กำลังติดเชื้อ “ไวรัสโกงกินทั้งระบบ” อย่างรุนแรง
ถ้าไม่รักษา แบบถอนรากถอนโคน ตั้งแต่วันนี้ เราอาจไม่มี “รัฐ ที่เป็นของประชาชน” เหลืออีกต่อไป
ประเทศไทย ในปี 2025 ไม่ได้สะดุดเพราะ คนไม่เก่ง แต่เพราะ ทั้งประเทศกำลังถูก ไวรัสชนิดหนึ่ง กัดกินจากข้างใน ไวรัสโกงกินทั้งระบบ (Scam Virus) ที่ลามผ่าน นักการเมือง ราชการ ท้องถิ่น ตำรวจ ที่ดิน จนถึง นโยบายระดับชาติ
นี่ไม่ใช่เรื่องไกลตัว คือ สิ่งที่ทำให้ ประเทศไทย “เหมือนป่วยเรื้อรัง”
– เศรษฐกิจโตช้า
– สังคมขัดแย้ง
– กฎหมาย ไม่ศักดิ์สิทธิ์
– คุณธรรม จริยธรรมเสื่อมทราม คนดีถอย คนโกงโต
และทั้งหมดเริ่มต้นจาก “โครงสร้างรัฐเสื่อม”
~ ไวรัสโกงกินมี 3 สายพันธุ์ ที่ลามทั้งประเทศ
1) รัฐซ้อนรัฐ – รัฐลับลวง (Deep Scam State)
เป็นเหมือน “เครือข่ายอีกชั้น” ที่คุมรัฐจริง ทำงานหลังฉาก กำหนด การแต่งตั้ง การโยกย้าย การจัดซื้อ การอนุญาต ประชาชนไม่เห็น แต่..ทุกคนรู้ว่า “มันมีอยู่จริง”
ตัวอย่างที่ คนไทย เห็นชัด :
• การซื้อขายตำแหน่ง ในตำรวจ
• ส่วยบนถนน ส่วยรถบรรทุก
• บ่อน – ยา – แรงงานต่างด้าว ที่อยู่ภายใต้ “เจ้าของพื้นที่จริง”
นี่คือ “รัฐเงา” ที่ทรงพลังยิ่งกว่า รัฐจริง เสียอีก
2) การเมืองเทา – ทุนเทา – ข้าราชการเทา
ไม่ใช่โกงแบบโต้งๆ แต่เป็นการ “บิดระบบ” ไปเรื่อยๆ จนผิดธรรมชาติ เช่น
• ใช้งบลับ งบแฝง
• เปิดช่องกฎหมายให้พวกพ้อง
• นายทุนผู้สนับสนุน ได้ผลประโยชน์คืน
• ระบบราชการบางส่วนทำงานตอบแทน เส้นสาย มากกว่า ประชาชน
นี่คือ การทำให้ “กติกา” ถูกออกแบบ เพื่อคนบางกลุ่ม ที่ ประชาชน ไม่ได้อยู่ในสมการเลย
3) การยึดรัฐ (State Capture) – ขั้นสุดของ การเสื่อม
เมื่อ กฎหมาย นโยบาย งบประมาณ การแต่งตั้ง ถูกควบคุม/สั่งการ โดยคนกลุ่มเล็กๆ รัฐ ไม่ใช่ของ ประชาชน อีกต่อไป แต่เป็นของ “เครือข่ายผลประโยชน์”
นี่คือโรคที่หนักที่สุด และคือเหตุผลว่า ทำไมประเทศไทย เหมือนเดินวนกลับที่เดิมไม่หยุด
~ เชื้อโกงกินทำลาย “รากของประเทศ” 3 จุด พร้อมกัน
1) ทำลายฐานรากคุณธรรมของบ้านเมือง (Moral Foundation)
คนดี ทำงานยากขึ้น
คนโกง โตเร็วขึ้น
คนรุ่นใหม่ เห็นภาพแล้วท้อ นี่คือ การทำลาย รากของประเทศแบบลึกที่สุด
2) ทำลายศักยภาพรัฐ (State Capacity)
รัฐทำงานช้าลง – อ่อนแรงลง เห็นชัดในหลายเรื่อง :
• น้ำท่วมซ้ำซาก
• อุบัติเหตุบนถนนแก้ไม่ได้
• ตำรวจ ไม่เป็นที่พึ่ง
• ปฎิรูป ไม่เขยื้อน ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ไม่ขยับ
เพราะระบบถูก “ล็อก” ด้วยอำนาจแฝง
3) ทำลายระบบบริหารประเทศ (System Governance)
ทำให้กฎหมายกลายเป็นเครื่องมือ อยากเอาผิดใครก็เอา อยากนิ่งก็เงียบ จนคนหมดศรัทธาในรัฐ
นี่คือภัยเงียบที่ทำลายประเทศจากข้างใน ไม่ใช่จากภายนอก
~ ทำไมการเมืองแบบเดิมยิ่งทำให้เชื้อร้ายโตเร็วขึ้น
เพราะ การเมืองไทย ยังเป็น “การเมืองแย่งอำนาจ” (Power Politics) ไม่ใช่ “การเมืองแก้โครงสร้างประเทศ” (Statecraft Politics)
พรรคแข่งกันว่า ใครดัง ใครด่า ใครแจก แต่..ไม่มีใครกล้าชน “รากของปัญหา” เพราะไปแตะแล้วกระทบเจ้าของผลประโยชน์
ผลคือ ไวรัสโกงกินยิ่งแข็งแรง
~ ประเทศไทย ต้องเปลี่ยน “โมเดลรัฐ” ไม่ใช่เปลี่ยน นักการเมือง
นี่คือเหตุผลว่า ทำไมประเทศไทย ต้องเดินสู่ “การเมืองที่ออกแบบอนาคตประเทศ” (Statecraft Politics)
ไม่ใช่ “การเมืองแย่งเก้าอี้”
Statecraft Politics ต้องทำ 3 อย่าง ให้ได้ :
1) รื้อกติกาที่เปิดช่องโกง – โปร่งใสทั้ง งบประมาณ การจัดซื้อ การแต่งตั้ง
2) ทำให้ข้าราชการซื่อสัตย์และเก่งขึ้น – โยกย้ายตามผลงาน ไม่ใช่เงินใต้โต๊ะ
3) ทำให้รัฐเป็นของประชาชนจริง ๆ—เปิดข้อมูล เปิดสถิติ เปิดการตัดสินใจแบบเรียลไทม์
นี่คือ “ยาแรง” ที่รักษาโรคนี้ได้ ไม่ใช่การเมืองแบบเดิม
~ แนวทางถอนรากถอนโคน – แบบที่ทำได้จริง ไม่ใช่แค่สโลแกน
ประเทศไทยต้องทำ 6 เรื่องนี้พร้อมกัน:
1) เปิดข้อมูลรัฐทุกบาททุกสตางค์ (Open Government Full Version)
เหมือนเกาหลี–เอสโตเนีย หยุดการซ่อนงบ
2) ห้ามใช้เงินทุนเทาในพรรคการเมือง
เปิดรายชื่อผู้บริจาคแบบวันต่อวัน
3) ปฏิรูประบบแต่งตั้งโยกย้ายในตำรวจ ท้องถิ่น ที่ดิน
สามจุดนี้คือ “หัวใจวงจรผลประโยชน์เทา”
4) ตั้งทีมปราบโกงอิสระแบบอังกฤษ (Delivery + Anti-corruption Taskforce)
ทำงานเร็ว ตรง ไม่ติดระบบราชการแบบเดิม
5) แยกอำนาจกรม–กระทรวงที่ทับซ้อนจนเกิดช่องผลประโยชน์
โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับบ่อน–แรงงานต่างด้าว–ขนส่ง–ที่ดิน
6) ตั้งองค์กรยุทธศาสตร์ชาติถาวร (Strategic Council)
ไม่ขึ้นกับรัฐบาลใด คอยกันไม่ให้ประเทศ “ถูกยึดอีก”
~ ประชาชนต้องถามคำถามใหม่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
นี่คือหัวใจของบทความทั้งหมด
ประชาชนต้องเปลี่ยนคำถามจาก “พรรคไหนให้เยอะที่สุด?” ไปเป็น “พรรคไหนล้างระบบโกงได้จริง?”
ถามแบบนี้:
1. พรรคไหนกล้าชนทุนเทา?
2. พรรคไหนกล้าปฏิรูปตำรวจจริง?
3. พรรคไหนเปิดข้อมูลแบบโปร่งใสจริง?
4. พรรคไหนเปลี่ยนการเมืองแย่งอำนาจเป็นการเมืองสร้างประเทศ?
5. พรรคไหนปกป้องผลประโยชน์ประชาชน ไม่ใช่ผลประโยชน์พวก?
นี่คือคำถามที่กำหนดอนาคตประเทศทั้งชาติ
~ บทสรุป: ประเทศไทยต้องรักษาโรคที่ต้นเหตุ ไม่ใช่แก้ไขตามอาการ
ไวรัสโกงกินไม่ใช่แค่ปัญหาเศรษฐกิจ แต่เป็นโรคที่กำลังกัดกิน “หัวใจของรัฐไทย”
ถ้าเราไม่เริ่มรักษาตอนนี้ รัฐไทยอาจถูกยึดโดยระบบสีเทาแบบสมบูรณ์ จนคนรุ่นหลังไม่มี “รัฐของประชาชน” เหลือให้สู้
• นี่คือการต่อสู้เพื่อบ้านเมือง ไม่ใช่การเมืองฝ่ายไหนฝ่ายหนึ่ง
• นี่คือการเลือกตั้งที่ต้องป้องกันอนาคต ไม่ใช่แก้ปัญหาปัจจุบัน
• นี่คือเวลาที่ประชาชนต้องลุกขึ้นถามคำถามที่ถูกต้อง
การเลือกตั้งที่ใกล้จะมาถึง จะไม่ใช่ ”การแข่งขัน“ ระหว่างสีพรรคอีกต่อไป แต่จะเป็น“สงครามครั้งใหญ่” ระหว่าง “พรรคเทา”กับ “พรรคไม่เทา” เป็นสงครามที่มีความเป็นความตายของประเทศเป็นเดิมพัน
ประเทศไทยจะรอดหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับนักการเมือง แต่ขึ้นอยู่กับว่า ประชาชนจะเลือก “รัฐที่เป็นของประชาชน” หรือ “รัฐที่ถูกยึดโดยผลประโยชน์สีเทา”
ดร. สุวิทย์ เมษินทรีย์
