“ศาลอุทธรณ์” พิพากษากลับ ให้จำคุก 21 ปี 4 เดือน “เอกชัย” พร้อมพวกร่วมขวางขบวนเสด็จฯ โดนคนละ 16 ปี ไม่รอลงอาญา
วันนี้ (5 ก.ย.) ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดี #ม110 ในข้อหา “ประทุษร้ายเสรีภาพพระราชินี” พิพากษากลับเป็นลงโทษจำคุก เอกชัย หงส์กังวาน 21 ปี 4 เดือน, จำคุก “ฟรานซิส” บุญเกื้อหนุน เป้าทอง, “ตัน” สุรนาถ แป้นประเสริฐ และประชาชนอีก 2 คน จำคุกคนละ 16 ปี ไม่รอลงอาญา
กรณีถูกกล่าวหาว่าร่วมกันขัดขวางขบวนเสด็จฯ ระหว่างการชุมนุม #ม็อบ14ตุลา ปี 63
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เชื่อได้ว่าจำเลยทั้ง 5 ทราบว่าเป็นขบวนเสด็จฯ ทั้ง 5 มีพฤติการณ์ขัดขวางขบวนเสด็จ การกระทำความผิดสำเร็จแล้วแต่ไม่บรรลุผล จึงเป็นการพยายามเพราะขบวนเสด็จเคลื่อนผ่านไปได้ กลุ่มผู้ชุมนุมมั่วสุมกันมากกว่า 10 คน โดยมีจำเลยที่ 1-3 เป็นผู้สั่งการให้กีดขวางการจราจร ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องศาลอุทธรณ์ไม่เห็นด้วยอุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น
.
พิพากษากลับเป็นจำเลยทั้งห้ามีความผิดตามมาตรา 110 มาตรา 215 และกีดขวางทางจราจร โดยฐานกีดขวางทางจราจรให้ปรับทางพินัย การกระทำของจำเลยทั้งห้าเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ลงโทษบทที่หนักที่สุดตาม #ม110 จำคุกคนละ 16 ปี เพิ่มโทษจำเลยที่ 1 (เอกชัย) รวมจำคุก 21 ปี 4 เดือน ไม่รอลงอาญา
ขณะนี้กำลังยื่นประกันตัวทั้ง 5 คนในชั้นฎีกา
อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 66 ศาลอาญาได้พิพากษายกฟ้องคดีทุกข้อกล่าวหา เห็นว่าไม่พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประกาศแจ้งเตือนให้กับผู้ชุมนุมทราบถึงการมีขบวนเสด็จ อีกทั้งไม่พบองค์ประกอบของการเป็นเส้นทางขบวนเสด็จตามปกติ ผู้ชุมนุมจึงไม่อาจรู้ได้เลยว่าขบวนเสด็จจะเคลื่อนผ่าน จนกระทั่ง คฝ. ตั้งแนวกำลังเข้าชักล้อมรถพระที่นั่ง ทำให้ผู้ชุมนุมเข้าใจว่าตำรวจพยายามสลายการชุมนุม ผู้ชุมนุมจึงประท้วงด้วยการแสดงออกชู 3 นิ้ว และตะโกนโวยวาย เหตุการณ์เกิดขึ้นจากการที่ทุกฝ่ายเข้าใจคลาดเคลื่อนกัน