ศาลพิพากษายืนจำคุก ไผ่ ดาวดิน 2 ปี 12 เดือน ‘ครูใหญ่’ 2 ปี คดี 112 ปราศรัยปฏิรูปสถาบันปี’64
เมื่อเวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดภูเขียวนัด นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ และ นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ ครูใหญ่ 2 ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ในคดีมาตรา 112, 116, พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้อนุญาต จากการปราศรัยประเด็นปฏิรูปสถาบัน ในการชุมนุมหน้าโรงเรียนภูเขียวและ สภ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเรียกร้องให้ตำรวจ สภ.ภูเขียว ขอโทษ กรณีไปคุกคามนักเรียนที่บ้านศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า คดีนี้ไผ่และครูใหญ่ต่อสู้คดีว่า ปราศรัยวิจารณ์รัฐบาลที่ออกกฎหมายส่งผลกระทบสถาบัน เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง รวมถึงปฏิรูปสถาบัน โดยการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นการใช้เสรีภาพในการแสดงความเห็นที่ได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากไม่ได้เรียกร้องให้ล้มล้างสถาบันก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 13 ก.ย.2567 ศาลจังหวัดภูเขียวพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามมาตรา 112 จำคุกคนละ 3 ปี เพิ่มโทษจำเลยที่ 1 (ไผ่) กึ่งหนึ่ง เนื่องจากเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก และได้กระทำผิดซ้ำภายใน 3 ปี นับแต่วันพ้นโทษ เป็นจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 4 ปี 6 เดือน จำเลยให้การเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้คนละ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 2 ปี 12 เดือน จำเลยที่ 2 (ครูใหญ่) มีกำหนด 2 ปี ส่วนข้อหาอื่นๆ พิพากษายกฟ้องศาลภูเขียวสั่งจำคุก ไผ่ ดาวดิน 2 ปี 12 เดือน คุก ‘ครูใหญ่’ 2 ปี คดี 112 ปราศรัยปี’64
ระหว่างอุทธรณ์ไผ่และครูใหญ่ได้รับการประกันตัวหลังถูกคุมขังที่เรือนจำอำเภอภูเขียวรวม 2 วัน 1 คืน และได้ยื่นอุทธรณ์โต้แย้งคำพิพากษาศาลชั้นต้นในข้อหาตามมาตรา 112 โดยไผ่ยืนยันว่า เจตนากล่าวถึง “สถาบัน” ไม่ระบุถึงบุคคลใด จึงไม่อาจตีความมาตรา 112 ในลักษณะขยายความ และทำให้การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามมาตรา 112 ได้ ส่วนครูใหญ่อุทธรณ์ว่า การปราศรัยหน้า สภ.ภูเขียว เป็นการใช้เสรีภาพแสดงความเห็นตามรัฐธรรมนูญ วิจารณ์การออกกฎหมายที่กระทบสถาบันด้วยเจตนาห่วงใย ไม่ได้กล่าวถึงองค์พระมหากษัตริย์ อีกทั้งศาลชั้นต้นได้หยิบถ้อยคำนอกคำฟ้องมาวินิจฉัยเจตนาของจำเลย โดยโจทก์มิได้นําสืบเกี่ยวกับข้อความดังกล่าวแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ทั้งไผ่และครูใหญ่ยืนยันว่า รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 6 บัญญัติให้องค์พระมหากษัตริย์ทรงดํารงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ เช่นเดียวกับรับรองสิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็นไว้ในมาตรา 34 การตีความรัฐธรรมนูญจึงต้องคำนึงคุณค่าตามรัฐธรรมนูญทั้งสองประการ โดยไม่ทําให้คุณค่าใดดํารงอยู่โดยทําลายอีกคุณค่าหนึ่ง
ล่าสุด ศูนย์ทนายความฯระบุว่า วันนี้ (3 ก.ย.68) ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืนจำคุก คดี #ม112 ปราศรัยหน้า สภ.ภูเขียว ของ “ไผ่ จตุภัทร์-ครูใหญ่ อรรถพล” ให้จำคุกจำเลยที่ 1 (ไผ่) มีกำหนด 2 ปี 12 เดือน จำเลยที่ 2 (ครูใหญ่) มีกำหนด 2 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นประกันตัวในชั้นฎีกา ด้านเฟซบุ๊ก Pai Jatupat ของไผ่ จตุภัทร์ ระบุว่า ด่วนนิดหน่อย ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุก วันนี้เข้าเรือนจำ
ศูนย์ทนายความฯรายงานเพิ่มเติมว่า เวลา 11.40 น. ศาลจังหวัดภูเขียวมีคำสั่งส่งคำร้องขอประกันไผ่และครูใหญ่ในชั้นฎีกาให้ศาลฎีกาพิจารณา คาดว่าจะทราบคำสั่งศาลฎีกาว่าจะให้ประกันหรือไม่ในวันพรุ่งนี้ (4 ก.ย.2568)
เป็นผลให้ในวันนี้ไผ่และครูใหญ่ต้องถูกส่งตัวไปคุมขังที่เรือนจำอำเภอภูเขียวในระหว่างรอคำสั่งของศาลฎีกา
ก่อนหน้านี้ไผ่และครูใหญ่เคยถูกคุมขังในคดีนี้มาแล้วระหว่างขอประกันในชั้นอุทธรณ์รวม 2 วัน 1 คืน