ข่าวประจำวัน » ลูกเกด ยังไม่เข็ด !! โชว์ห้าวตัดงบโครงการหลวง หลังโดนคดี 112 คุก 2 ปี

ลูกเกด ยังไม่เข็ด !! โชว์ห้าวตัดงบโครงการหลวง หลังโดนคดี 112 คุก 2 ปี

15 August 2025
35   0

ลูกเกด ชลธิชา” โชว์ห่าม จี้ตัดงบฯโครงการศก.พอเพียงโคกหนองนา อ้างคนในโซเชียลชี้ไม่คุ้มค่า

วันที่ 14 ส.ค. 68 ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 21:45 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 11 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วาระ 2 ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ในมาตรา 20 ว่าด้วยงบประมาณของกระทรวงมหาดไทย น.ส. ชลธิชา แจ้งเร็ว สส. ปทุมธานี พรรคประชาชน อภิปรายเพื่อขอตัดลบงบประมาณของกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย 10% ในโครงการส่วนที่เกี่ยวข้องกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงทฤษฎีใหม่ และโคกหนองนา พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้คัดค้าน และสนับสนุนโครงการเกษตรที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตให้ประชาชนเลี้ยงชีพและครอบครัวของตัวเองได้

“ล่าสุดดิฉันได้ลงพื้นที่เยี่ยมศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงและโคกหนองนา ซึ่งต้องชื่นชมว่าทำโครงการไว้ค่อนข้างดี แต่ต้องยอมรับว่า มีประชาชนอีกจำนวนไม่น้อยที่ต้องผิดหวังและสูญเสียเงินเป็นจำนวนกับโครงการเหล่านี้ โดยไม่ได้อะไรคืนมานอกจากคำว่าขาดทุน” น.ส. ชลธิชา กล่าว

น.ส. ชลธิชา ระบุว่า จากข้อมูลที่ได้รับทราบจากประชาชนที่เป็นผู้ทดลองโครงการโคกหนองนาทางภาคใต้ และการแสดงความคิดเห็นบนโซเชียลมีเดีย ได้สะท้อนความล้มเหลวของโครงการนี้ เพราะโครงการถูกออกแบบมาอย่างสำเร็จรูปโดยกรมการพัฒนาชุมชน เกษตรกรจะเปลี่ยนรูปแบบหรือความต้องการต่างๆ ให้เข้ากับศักยภาพของตนเองเป็นไปได้ยากมาก โครงการไม่ตอบโจทย์กับสภาพพื้นที่จริง ไม่มีการวัดผลอย่างมีประสิทธิภาพ นำโครงการมาสู่ความล้มเหลวในที่สุด

น.ส. ชลธิชา เน้นไปที่แผนงานยุทธศาสตร์เสริมสร้างพลังทางสังคม เกี่ยวกับผลผลิตด้านการสร้างความมั่นคงทางอาชีพและรายได้ 457 ล้านบาท และการเสริมสร้างขีดความสามารถในการบริหารจัดการชุมชน 522 ล้านบาท แค่ 2 ผลผลิตนี้รวมกันเป็นงบประมาณ 1,000 ล้านบาท หากไปดูในรายละเอียดกลับมีความคลุมเครือ และคล้ายคลึงกันมากทั้ง 2 โครงการ และวนเวียนอยู่กับคำสำคัญแค่ไม่กี่คำ เช่น หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทฤษฎีใหม่ โคกหนองนา ความยั่งยืน การขจัดความยากจน

น.ส. ชลธิชา ชี้ว่า งบประมาณส่วนนี้ถูกใช้พัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง 755 แห่งด้วยกัน พัฒนาศูนย์การเรียนรู้พัฒนาสู่โคกหนองนาอีกประมาณ 1,200 แห่ง ตนเองไม่เห็นด้วยที่กรมการพัฒนาชุมชนจะหว่านแหในโครงการที่เน้นจำนวนเพียงอย่างเดียว โดยไม่คำนึงถึงคุณภาพอย่างแท้จริง แต่ไม่มีการแจงผลที่คาดว่าจะได้รับ หรือ KPI ของโครงการนั้นๆ

“ขอฝากเป็นข้อสังเกตว่า หากกรมการพัฒนาชุมชนเห็นว่าโครงการเหล่านี้มีความสำคัญต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนจริง ควรมีเกณฑ์ในการประเมินความสำเร็จของโครงการที่ชัดเจนกว่านี้ ระบบติดตามผลอย่างจริงจัง และสนับสนุนพื้นที่ซึ่งทำสำเร็จไปแล้วให้มากกว่านี้ พื้นที่ซึ่งกำลังพัฒนาและมีแนวโน้มที่ดี ต้องได้รับการสนับสนุนให้มีศักยภาพเพียงพอ ไม่เน้นการเพิ่มจำนวนโครงการมากเกินไป โดยไม่คำนึงถึงความพร้อมหรือความสามารถของหน่วยงานในการติดตามโครงการต่างๆ เหล่านั้น” น.ส. ชลธิชา ระบุ

น.ส. ชลธิชา ทิ้งท้ายว่า เราต้องประเมินความพร้อมของผู้เข้าร่วมโครงการก่อนเริ่มทำ และปรับแนวทางของการทำโครงการให้ยืนหยุ่นขึ้น ไม่เป็น One Size Fits All เพื่อป้องกันความล้มเหลวในอนาคต ไม่ให้นำงบประมาณไปละลายแม่น้ำ

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่ศาลจังหวัดธัญบุรี นัดพิพากษาคดีปราศรัยและชุมนุมเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังคดีการเมือง หน้าศาลจังหวัดธัญบุรี เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2564 โดยมีจำเลยเป็น “ลูกเกด” ชลธิชา และพวก รวม 10 คน ซึ่งมีเพียงชลธิชา ที่ถูกฟ้องข้อหา ม.112

ศาลพิพากษาว่า จำเลยทั้ง 10 คน ไม่มีความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และฐานใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียงฯ

แต่ลงโทษจำคุก 3 ปี กับ “ชลธิชา” ในข้อหา ม.112 จากการปราศรัย 2 ข้อความ

ศาลพิพากษาลงโทษจำคุกเฉพาะ น.ส.ชลธิชา 3 ปี แต่ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงลงโทษจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา

ขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นอุทธรณ์ พร้อมยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวในชั้นอุทธรณ์ ซึ่งหากไม่ได้รับการประกันตัว จะพ้นจากตำแหน่ง ส.ส.ไปโดยปริยาย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 102 อนุ 4

ล่าสุดผู้สื่อข่าว ได้รับรายงานว่า น.ส.ชลธิชา ได้รัะบการประกันตัวแล้ว

มีรายงานว่า เหตุการณ์ คาร์ม็อบ เมื่อ 11 ก.ย.ปี 2564 คดีมีผู้ชุมนุมถูกฟ้องในความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่มี น.ส.ชลธิชา เพียงคนเดียว ถูกฟ้องเพิ่มในข้อหามาตรา 112 เนื่องจากในการชุมนุม มีการปราศรัยในประเด็นเกี่ยวกับการที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกกฎหมาย พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการในพระองค์ พ.ศ. 2560 และปล่อยให้มีการแก้กฎหมาย พ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เมื่อปี 2561