ไทยกร พลสุวรรณ ได้โพสข้อความทางเฟสบุ๕ระบุว่า ชาติมหาอำนาจติดตามการเปลี่ยนแปลงในไทยอย่างใกล้ชิด เพราะไทยคือจุดยุทธศาสตร์สำคัญของโลก เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่สุดของอาเซียน การเปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจในไทยจึงสำคัญต่อผลประโยชน์ของชาติมหาอำนาจ มหาอำนาจ 5 ชาติมองอนาคตการเมืองไทยอย่างไร? ใน UNSC มีสมาชิกถาวรอยู่ 5 ชาติ
ท่าทีของแต่ละชาติส่งสัญญานชัดเจนต่ออนาคตทางการเมืองของพล.อ.ประยุทธ์ มีอนาคต หรือ ไร้อนาคต
(1)USA ส่งสัญญานชัดจากกระทรวงต่างประเทศ องค์กรสิทธิมนุษยชน,UNHCR มีทั้งแถลงการณ์ ให้เร่งคืนประชาธิปไตย,ข้อกังวล,และการประณามที่เสนอต่อรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์
(2)อังกฤษให้ที่พักพิงกับอดีตนายกรัฐมนตรีที่หลบหนีจากไทย และไม่ตอบรับข้อเสนอใดๆจากรัฐบาล คสช.
(3)ฝรั่งเศสซึ่งเป็นหนึ่งในสองชาติที่มีอิทธิพลเหนือสหภาพยุโรปได้ให้ที่พักพิงถาวรกับผู้หลบหนีหมายจับของ คสช. และสหภาพยุโรปยังออกแถลงการณ์กดดัน ให้เร่งคืนประชาธิปไตย
(4)รัสเซียยังไม่แสดงท่าทีใดๆ
(5)จีนที่รัฐบาล คสช.ถือเป็นมหามิตร เป็นหลังพิง ด้านการต่างประเทศ ล่าสุดกลับอนุญาตให้อดีตนายกรัฐมนตรีที่หลบหนีจากไทยเดินทางเข้าจีนได้ เหมือนกับตบหน้ารัฐบาล คสช. ครั้งใหญ่
คำถามคือ ทำไม?
ก็เพราะแต่ละชาติต่างก็ยึดผลประโยชน์ของชาติตนเป็นสำคัญ ซึ่งก็เป็นหลักการที่ถูกต้อง ชาติมหาอำนาจจะมีบุคลากรที่เข้ามาทำงานด้านการข่าวทุกๆด้านในทุกๆจุดยุทธศาสตร์ของโลก ไทยก็เช่นเดียวกัน เพื่อเป็นข้อมูลในการจัดความสัมพันธ์กับประเทศนั้นๆ
-ต้องรู้การเปลี่ยนแปลงล่วงหน้าว่าอำนาจในรัฐนั้นๆ จะเปลี่ยนไปอย่างไร ผู้มีอำนาจในปัจจุบันอยู่ได้ไหม? ใครคือผู้จะมีอำนาจในอนาคต?
-USA มีบุคลากรด้านนี้ในไทยมากกว่า 2,500 คน
-จีนมีบุคลากรด้านนี้ในไทยจำนวนไม่น้อยกว่า USA
บุคลากรเหล่านี้จะทำการหาข้อมูล,ประเมิน,วิเคราะห์,ลงพื้นที่,ติดตามกระแสความเปลี่ยนแปลงและสรุปผลส่งให้รัฐบาลของตน(อังกฤษและฝรั่งเศสใช้ผลวิเคราะห์ของ USA) จากนั้นรัฐบาลชาติมหาอำนาจจะดำเนินนโยบายทางการทูตทั้งทางลับและเปิดเผย ดูจากสัญญานที่ส่งออกมาล่าสุดของจีนก็น่าจะชัดเจนว่าชาติมหาอำนาจมองอนาคตทางการเมืองของพล.อ.ประยุทธ์อย่างไร ท่านผู้นำทราบเรื่องนี้ดีทำให้อารมณ์หงุดหงิดจนต้องออกมาโอดครวญ..
สำนักข่าววิหคนิวส์