ศรีสุวรรณจี้ ป.ป.ช.เร่งส่งศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด 484 สส.-สว.และ ครม.ฝ่าฝืน ม.144 หรือไม่
วันนี้ (4 ส.ค.68) เวลา 10.00 น.ที่สำนักงานใหญ่ ป.ป.ช.นนทบุรี นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอให้เร่งการชี้มูลความผิดเหล่าผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจำนวน 484 ราย ประกอบด้วย ส.ส. 309 คน ส.ว. 175 คน กรรมาธิการงบประมาณและสมาชิก ครม. ทั้งของนายเศรษฐาและของนางสาวแพทองธาร กรณีโยกงบประมาณจากการชำระหนี้-ดอกเบี้ยเงินกู้ ธนาคารรัฐ 5 แห่ง ไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 3.5 หมื่นล้านบาท และการโอนงบเข้า ‘กองทุน ส.ส.–ส.ว.’ ถือเป็นการกระทำที่อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 144 วรรคหนึ่งและสองหรือไม่
ทั้งนี้เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 1 ส.ค.68 ที่ผ่านมากรณีมีการกล่าวหาว่า นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง(ผู้ถูกร้อง)เป็นผู้ให้ความเห็นชอบการจัดทำโครงการ และให้มีการเสนองบประมาณของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 3 โครงการ โดยผู้ถูกร้องมีส่วนโดยทางตรง และทางอ้อม ในการพิจารณา(ร่าง)พรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 และ(ร่าง)พรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 มีการเสนอการแปรญัตติ หรือการกระทำด้วยประการใดๆ ที่มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภาหรือกรรมาธิการ มีส่วนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่าย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสอง หรือไม่
ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยว่า การเสนอและแปรญัตติโครงการทั้ง 3 มีผลให้ผู้ถูกร้องมีส่วนไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ในการใช้งบประมาณ 2569 มิใช่เป็นเพียงดำเนินการกิจการของสภาอย่างปกติ ไม่เข้าข้อยกเว้นตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 185 (2) ผู้ถูกร้องจึงเป็นผู้กระทำการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสอง จึงสั่งให้ผู้ถูกร้องสิ้นสุดสมาชิกภาพ สส. นับแต่วันที่ศาลมีคำวินิจฉัยคือ 1 ส.ค. 2568 และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกร้อง มีกำหนด 10 ปี
คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าวถือว่าเป็นบรรทัดฐานมีผลผูกพันรัฐสภา ครม. ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานรัฐ ซึ่งนำมาเทียบเคียงได้กับกรณีที่ ส.ส. – ส.ว.รวม 484 คนและ ครม.ชุดนายเศรษฐา และชุด น.ส.แพทองธาร ที่มีส่วนโดยทางตรงและทางอ้อมในการโยกงบประมาณจากการชำระหนี้-ดอกเบี้ยเงินกู้ ธนาคารรัฐ 5 แห่ง ไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 3.5 หมื่นล้านบาท และการโอนงบเข้า ‘กองทุน ส.ส.–ส.ว.’ อันอาจเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 อย่างชัดเจน
ด้วยเหตุดังกล่าว องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จึงนำความมาขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.เร่งชี้มูลความผิดผู้ดำรงดำแหน่งทางการเมืองทั้งหมดที่ฝ่าฝืนมาตรา 144 ดังกล่าวโดยเร็ว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคท้าย ซึ่งอาจจะหมดอายุความในวันที่ 9 ส.ค.68 นี้แล้ว หาก ป.ป.ช.เพิกเฉยหรือประวิงเวลาอาจเข้าข่ายฝ่าฝืน รัฐธรรมนูญ 234(1) ซึ่งประชาชนสามารถเข้าชื่อกันถอดถอน ป.ป.ช.ตามมาตรา 236 ประกอบ ป.อ.มาตรา 157 ได้ นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด