ข่าวประจำวัน » ซ่าผิดที่ !! แจ๊ค แปปโฮ กร่างส่อโดน 4 คดีหนักที่ญี่ปุ่น หลังป่วนหน้าร้านค้าภูเขาไฟฟูจิ

ซ่าผิดที่ !! แจ๊ค แปปโฮ กร่างส่อโดน 4 คดีหนักที่ญี่ปุ่น หลังป่วนหน้าร้านค้าภูเขาไฟฟูจิ

17 November 2025
19   0

อีจัน – แจ็คแปปโฮ อาจมีหงอย ปีนรถเต้นหน้าลอว์สันวิวฟูจิ “เอาผิดได้จริง” กฎหมายญี่ปุ่นแรงแค่ไหน?ปีนหลังคารถเต้นหน้าร้าน Lawson วิวฟูจิ นี่ไม่ใช่แค่เรื่องมารยาท แต่เป็นเรื่องกฎหมาย! วิเคราะห์ความเสี่ยง 4 ข้อหาอาญาและเทศบัญญัติที่อาจทำให้โดนลงโทษจำคุก-ปรับถึงหลักแสนเยน

บทวิเคราะห์ความเสี่ยงทางกฎหมายจากกรณีอินฟลูเอนเซอร์ไทยทำคอนเทนต์ในพื้นที่เซนซิทีฟที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น นาทีนี้ โซเชียลมีเดียไทยกำลังวิพากษ์วิจารณ์กรณีของ “แจ็ค แปปโฮ” อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ที่มีคลิป ปีนขึ้นไปบนหลังคารถ เต้นและถอดเสื้ออยู่ลานจอดรถหน้าร้าน Lawson วิวภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมในเมืองฟูจิคาวากูจิโกะ (Fujikawaguchiko) คำถามที่ดังที่สุดคือ “ญี่ปุ่นสามารถเอาผิดทางกฎหมายได้จริงไหม?” คำตอบคือ “เอาผิดได้จริง” และมีหลายมาตราที่บทลงโทษ แรงกว่าที่คนไทยส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้มาก ทั้งจำคุกและค่าปรับหลักแสนเยน ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้เสียหาย (เจ้าของรถ/ร้านค้า) และการดำเนินการของตำรวจ รวมถึงเทศบาลท้องถิ่น

พฤติกรรมของ แจ็ค แปปโฮ ไม่ใช่แค่เรื่อง “มารยาท” แต่คือ “ความเสี่ยงทางกฎหมาย” ที่ร้ายแรง ทำไม Lawson สาขานี้ถึง “เซนซิทีฟที่สุด”? ร้าน Lawson สาขา Fujikawaguchiko แห่งนี้ ถูกนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกก่อความวุ่นวายมานานหลายปี จนเกิดปัญหารุนแรง อาทิ การข้ามถนนมั่ว , การขวางทางเดิน , การปีนหลังคาคลินิกเพื่อถ่ายรูป หรือ นั่งบนรถของคนอื่น สร้างความเดือดร้อนหนัก จนร้านค้าและชาวบ้านรอบข้างต้องร้องเรียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ปัญหารุนแรงถึงขนาดที่เทศบาลเมืองฟูจิคาวากูจิโกะต้องตัดสินใจ สร้าง “กำแพงบังวิวสูง 2.5 เมตร” เพื่อจัดการกับนักท่องเที่ยวเกเร (ญี่ปุ่นยอมแลกวิวฟูจิ เพื่อแลกกับความสงบเรียบร้อย)

การกระทำคอนเทนต์ปีนหลังคารถ-เต้น-ถอดเสื้อในพื้นที่ที่กำลังอยู่ใน “โหมดเข้มงวดสูงสุด” และมีประวัติการร้องเรียนสะสม จึงกลายเป็นประเด็นร้อนแรงและถูกจับตามองจากทางการญี่ปุ่นทันที

และนี่คือ 4 ข้อหาที่ “แจ็ค แปปโฮ” อาจเข้าข่ายความผิดกฎหมายญี่ปุ่น พฤติกรรมดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดทางกฎหมายญี่ปุ่นหลายมาตรา ดังนี้

1. ความผิดฐานทำให้ทรัพย์สินเสียหาย (刑法261条 – Damage to Property)

การปีนขึ้นไปบนหลังคารถที่ไม่ใช่ของตัวเอง ถ้าทำให้ทรัพย์สินเสียหาย ไม่ว่าตั้งใจหรือไม่ก็ตาม (เช่น หลังคารถยุบ, มีรอยบุบ, รอยขีดข่วน แม้เล็กน้อย) ถือเป็นความผิดอาญา บทลงโทษ : จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 300,000 เยน (ประมาณ 70,000 บาท) โอกาสดำเนินคดี : สูง หากเจ้าของรถ (ไม่ว่าจะเป็นรถส่วนตัวหรือรถเช่า) ตรวจสอบพบความเสียหายและยื่นคำร้องทุกข์ ซึ่งกรณีนี้มีคลิปวิดีโอเป็นหลักฐานชัดเจนว่ามีการปีนขึ้นไปยืนบนหลังคาจริง

2. ความผิดฐานขัดขวางการทำธุรกิจ (業務妨害 刑法233・234条 – Obstruction of Business)

จะเข้าข่ายก็ต่อเมื่อการถ่ายทำคอนเทนต์ ทำให้การทำงานของร้านค้าหรือพนักงานเป็นไปด้วยความลำบาก หรือทำให้ธุรกิจเสียหาย เช่น รถลูกค้าเข้า-ออกลำบาก, พนักงานต้องออกมาจัดการ, หรือทำให้ยอดขายลดลง บทลงโทษ : จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 500,000 เยน (ประมาณ 120,000 บาท) โอกาสดำเนินคดี : มีโอกาสสูง เนื่องจากคลิปถ่ายในจุดใกล้ทางเข้า-ออก และสาขานี้เป็นจุดท่องเที่ยวที่มีคนพลุกพล่าน หากร้าน Lawson สาขาดังกล่าวยื่นคำร้องว่าพฤติกรรมนี้ทำให้ธุรกิจได้รับผลกระทบ ข้อหานี้สามารถเดินหน้าได้ทันที

3. ความผิดฐานก่อความเดือดร้อนสาธารณะ (軽犯罪法 – Minor Offenses Act)

ถือเป็นข้อหาง่ายที่สุดที่ตำรวจญี่ปุ่นใช้กับนักท่องเที่ยว จะเข้าข่ายเมื่อทำเสียงดัง, สร้างความวุ่นวาย, ขวางทางสัญจร, หรือแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมในที่สาธารณะ บทลงโทษ : กักตัวไม่เกิน 30 วัน หรือ ปรับไม่เกิน 10,000 เยน (ประมาณ 2,400 บาท) โอกาสดำเนินคดี : หากตำรวจท้องถิ่นเข้ามาเจอเหตุการณ์นี้ขณะที่กำลังเกิดขึ้น สามารถ “เชิญตัวไปสถานีตำรวจ” เพื่อดำเนินคดีได้ทันที

4. ฝ่าฝืนเทศบัญญัติท้องถิ่น (Fujikawaguchiko Town Ordinance)

พื้นที่นี้เพิ่งประกาศ “มาตรการควบคุมนักท่องเที่ยว” อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการห้ามขวางหน้าร้าน, ห้ามทำกิจกรรมเสียงดัง, และห้ามทำพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุในลานจอดรถ หากฝ่าฝืน ตำรวจท้องถิ่นมีสิทธิ์ออกคำสั่ง หรือปรับตามระเบียบที่ตั้งไว้

ญี่ปุ่นสามารถ “เอาผิดย้อนหลัง” ได้ กรณีของ แจ็ค แปปโฮ มีความเสี่ยงสูงจริง เนื่องจาก การปีนรถ เสี่ยงคดี “ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย” ทันที ซึ่งเป็นคดีอาญา โลเคชัน เป็นจุดที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ และมีการร้องเรียนจากร้านค้ามาอย่างรุนแรง หลักฐาน คลิปวิดีโอที่เผยแพร่ถือเป็นหลักฐานทางกฎหมายโดยสมบูรณ์

วัฒนธรรมญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับความสงบเรียบร้อยสูงมาก และที่สำคัญ ตำรวจญี่ปุ่นเคยจับกุมผู้กระทำความผิดจากคลิปที่เผยแพร่ใน TikTok/YouTube มาแล้วหลายครั้ง แม้ว่าผู้กระทำจะเดินทางกลับประเทศไปแล้วก็ตาม

การทำคอนเทนต์ในต่างประเทศจึงไม่ใช่แค่เรื่องความดังหรือ ดราม่า แต่มันคือความรับผิดชอบ และความเสี่ยงทางกฎหมายที่คนทำคอนเทนต์ต้องตระหนักให้ดี

ขอบคุณข้อมูลจาก เพจ JapanSalaryman