3 พ.ย.68 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจหลักฐานคดีหมายเลขดำ อ.740/2568 ที่นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.รักชนก ศรีนอก หรือไอซ์ สส.กทม. และนายสหัสวัส คุ้มคม สส.ชลบุรี พรรคประชาชน (ปชน.) ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา พร้อมเรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท กรณีที่ทั้งสองร่วมกันแถลงข่าวกล่าวหาว่าสมัยที่นายสุชาติดำรงตำแหน่ง รมว.แรงงาน เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่สำนักงานประกันสังคมเข้าซื้อตึก skyy9
โดย น.ส.รักชนก และนายสหัสวัส ได้เดินทางมาศาลตามนัด จากนั้นได้เดินขึ้นไปบนห้องพิจารณาทันที โดยไม่ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว
ต่อมา ศาลได้อธิบายคำฟ้องให้จำเลยทั้งสองฟัง พร้อมสอบคำให้การ โดยทั้ง น.ส.รักชนก และนายสหัสวัสยังคงให้การปฏิเสธ ทนายโจทก์จึงยื่นขอแก้ไขคำฟ้อง โดยขอให้นับโทษ น.ส.รักชนก ต่อจากคดีหมายเลขดำ อ.683/2565 ที่เป็นคดีในความผิด ม.112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก่อนที่ทนายโจทก์จะแถลงต่อศาลขอนำพยานบุคคลเข้าสืบจำนวน 4 ปากใช้เวลาสืบพยาน 1 นัด ส่วนทนายฝ่ายจำเลยแถลงต่อศาลขอนำพยานเข้าสืบจำนวนทั้งหมด 11 ปาก สืบพยานทั้งหมด 3 นัด โดยศาลกำหนดวันสืบพยานโจทก์นัดแรกเป็นวันที่ 17 พ.ย.69 ส่วนการสืบพยานของฝ่ายจำเลยศาลนัดวันที่ 18-20 พ.ย.69
ภายหลังตรวจหลักฐาน นายสหัสวัส กล่าวว่า ในการตรวจหลักฐานวันนี้ทั้งตน และน.ส.รักชนก ยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ยืนยันว่าสิ่งที่พวกตนทำเป็นการทำเพื่อประโยชน์ของสาธารณะในการตรวจสอบฝ่ายบริหาร ซึ่งมีการทำบัญชีพยานเอกสารรวมถึงพยานบุคคลที่มีทั้งนักวิชาการ ข้าราชการ แต่ตนยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นใครบ้าง และไม่หนักใจ ซึ่งนายสุชาติถือว่าเป็นบุคคลสาธารณะสามารถตรวจสอบได้
ด้าน น.ส.รักชนก กล่าวว่า ตนอยากให้ทุกฝ่ายให้กำลังใจกลุ่มประกันสังคมก้าวหน้าที่นำข้อมูลเหล่านี้มาเปิดเผย ถ้าไม่มีกลุ่มนี้ก็ไม่มีใครทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นในประกันสังคม และอยากให้ทุกคนจับตาดูเรื่องนี้ ตนยืนยันว่าที่ทำไปทั้งหมดเป็นการทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนและผู้ประกันตน 24 ล้านคน และผู้ประกันตนที่ได้รับทราบข้อมูลคงจะได้รู้ว่าใครพยายามที่จะรักษาผลประโยชน์ ใครพยายามที่จะยืดเรื่องนี้ออกไป
เมื่อถามว่า มองว่าการฟ้องครั้งนี้เป็นการฟ้องปิดปากเพื่อไม่ให้ดำเนินการต่อหรือไม่ น.ส.รักชนก กล่าวว่า ตนไม่บอกว่ากรณีนี้เป็นการฟ้องปิดปากหรือไม่ สื่อมวลชนและประชาชนรวมถึงผู้ประกันตนน่าจะทราบว่าเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่า ทางนายสุชาติมีหลักฐานความบริสุทธิ์ที่จะมาต่อสู้ว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง น.ส.รักชนก กล่าวว่า ก็ต้องให้นายสุชาตินำเอกสารและความจริงทั้งหมดเข้ามาต่อสู้ ส่วนในอนาคตถ้าเกิดแพ้คดีขึ้นมาค่าเสียหายที่นายสุชาติเรียกนั้นก็ต้องเรียนตามตรงว่าเงินจำนวน 50 ล้านบาทนั้น ตนน่าจะไม่มีมาจ่ายแน่นอน แต่ตนมองว่าในอนาคต หากตนแพ้คดี ผู้ประกันตนก็ทราบแล้วว่ามีบางสิ่งเกิดขึ้นกับเงินในกองทุนประกันสังคม
เมื่อถามว่า การซื้อตึกดังกล่าว มีความเชื่อมโยงกับนักการเมืองหรือไม่ นายสหัสวัส กล่าวว่า อย่างที่พวกตนได้แถลงไปที่หน้าตึก Skyy9 ก็มีความชัดเจนในระดับหนึ่ง และตนคิดว่าการที่มาขึ้นศาลในรอบนี้เมื่อศาลเรียกพยานเอกสาร และพยานหลักฐานต่าง ๆ เข้ามานั้นจะมีอะไรชัดเจนมากขึ้นแน่นอน
นายสหัสวัส กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ประธานการตรวจสอบของกระทรวงแรงงานได้ลาออกไป 2 คน จึงอยากฝากไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานคนใหม่อย่าง น.ส.ตรีนุช เทียนทอง ว่าเมื่อไหร่จะตั้งประธานกรรมการคนใหม่เพื่อมาตรวจสอบเรื่องตึก Skyy9 ถ้าสามารถดำเนินการเรื่องนี้อย่างเร็วก็จะเป็นประโยชน์เกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
CR: ไทยไทชาเนล
