กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2568 อนุสรณ์สถานแห่งชาติเป็นสถานที่จัดพิธีเพื่อน้อมรำลึกถึงวีรชนผู้กล้าหาญ โดยมีองค์กรต่างๆ เข้าร่วมอย่างคับคั่ง อาทิ มูลนิธิเพื่อสังคมไทย มูลนิธิชินบัญชรองค์กรสาธารณประโยชน์ วปอ.2547 ชมรมทหารพรานค่ายปักธงชัย สมาคมจิตอาสาเพื่อการพัฒนา สมาคมชาวอีสาน สมาพันธ์สื่อสร้างสรรค์บ้านสันติธรรมปราณบุรี และสมาคมมิตรภาพไทย-ลาว
พลเอกสุนัย สัมปัตตะวนิช ประธานมูลนิธิเพื่อสังคมไทย อดีตผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับวีรชนผู้กล้าที่เสียสละชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องชายแดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทหารชายแดนกัมพูชาผู้เสียชีวิตทั้ง 16 นาย
“รู้สึกภูมิใจที่หลายหน่วยงานมาร่วมกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง” พลเอกสุนัยกล่าว “สถานที่แห่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นที่รวบรวมรายชื่อวีรชน และดินจากทุกสมรภูมิรบ ซึ่งอัญเชิญมาไว้ ณ ที่นี้”
ภายในงาน สมาคมจิตอาสาเพื่อการพัฒนา ร่วมร้องเพลงสดุดีให้กับทหารกล้าทั้ง 16 นาย ผู้เข้าร่วมพิธีได้ร่วมกันรำลึกถึงความเสียสละของบรรพบุรุษผู้กล้า ที่ยอมแลกด้วยเลือดเนื้อและชีวิต เพื่อปกป้องรักษาผืนแผ่นดินไทยให้มีความอุดมสมบูรณ์และมั่งคั่ง
ดินจาก 10 สมรภูมิสำคัญ ได้แก่ สมรภูมิขับไล่ขอม จังหวัดสุโขทัย สมรภูมิดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี สมรภูมิบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี สมรภูมิโพธิ์สามต้น จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สมรภูมิบางแก้ว จังหวัดราชบุรี สมรภูมิลาดหญ้า จังหวัดกาญจนบุรี สมรภูมิถลาง จังหวัดภูเก็ต สมรภูมิเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ สมรภูมิเชียงแสน จังหวัดเชียงราย และสมรภูมิทุ่งสัมฤทธิ์ จังหวัดนครราชสีมา ถูกนำมาบรรจุไว้ในโถดิน ณ อนุสรณ์สถานแห่งชาติแห่งนี้ เพื่อเป็นตัวแทนแห่งดวงวิญญาณของผู้เสียสละ
“หากเราไม่ได้บรรพบุรุษเหล่านี้ ประเทศไทยจะเป็นอย่างไร” พิธีกรในงานกล่าว “พวกเขาเหล่านี้ยอมแลกด้วยเลือดเนื้อและชีวิต แม้รู้ว่าต้องตาย ก็ขอยอมตายเพื่อปกป้องรักษาผืนแผ่นดินให้กับลูกหลานไทย”
อนุสรณ์สถานแห่งชาติ ถือเป็นสถานที่สำคัญที่ลูกหลานไทยควรมาเยี่ยมชม เพื่อรำลึกถึงพระคุณของบรรพบุรุษ และตระหนักถึงความเสียสละอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้ประเทศไทยมีความสงบสุขและเจริญรุ่งเรืองมาจนถึงปัจจุบัน
























